วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บัญญัติ 7 อย่างของผู้พึ่งพาอาศัยในคอนโด

ข้อข้อบังคับ 7 ประการของชาวคอนโด

        มากมายคนอาจจะคิดว่า การอยู่คอนโดนั้นเป็นเสรี ส่วนตัวดี ห้องใครห้องมัน ปิดประตูใส่สลักประตูล็อคกุญแจ รูดผ้าม่านหน้าต่างปิดมิด กันสายตาที่แส่รู้สอดเห็น ที่นี้คุณจะทำอะไรก็ได้ จักหกคะเมนตีลังกาใส่ผ้าไม่ใช่หรือถอดผ้า แต่อาจจะมีบางคนไม่รู้เลยว่า ถ้าต่างว่าอยู่บ้านเดี่ยวใช่ไหมทาวน์เฮ้าส์ แล้วค้างค่าน้ำค่าไฟ ก็จักถูกตัดน้ำตัดไฟ ใช่ไหมโทรศัพท์ก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าคุณธำรงคอนโดมิเนียมอาจจักหนักกว่านี้ คือไม่พางถูกตัดน้ำตัดไฟ อาจจะถูกล็อคห้องไม่ให้คุณนั้นเข้าไปใช้ประโยชนอีกด้วย และนี่เป็นเรื่องจริง ที่ทางนิติบุคคลตึกชุด ได้มีอำนาจอันชอบธรรมตามกฎหมายที่จะทำ พร้อมด้วยเป็นเหมือนการขึ้นต้นต้นเท่านั้น แล้วถ้าถ้าถึงที่สุดแล้ว ทางนิติบุคคลอาคารชุดจักเข้ามายึดสมบัติพัสถานในห้องชุดไปขายไม่ใช่หรือกระทั่งการขู่ขายห้องชุดห้องใดห้องหนึ่งเพื่อชำระล้างหนี้ยังอยู่ในขอบข่ายอำนาจทางนิติที่นิติบุคคลอาคารชุดมีสิทธิทำได้อีกด้วย โอ้โห!ไหงเป็นอย่างงั้นได้

        คุณต้องเข้าอยู่ศึกษาข้อข้อบัญญัติบ้าง มาดู ก่อนอื่นพึงรู้ว่า การอยู่อาศัยในอาคารห้องชุดไม่ใช่หรือคอนโดมิเนียมนั้น มีข้อบังคับหลักที่ดอง คือ พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 กฎหมายนี้ได้กำหนดเรื่องราวของนิติบุคคลอาคารชุดไว้รอบด้านเลยทีเดียว

  • การเป็นเจ้าของร่วมกัน
  • ความรับผิดชอบร่วมกัน
  • การปฏิบัติงานจัดการ
  • อำนาจพร้อมกับบทบาทของผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด
  • ระเบียบขั้นพื้นฐานที่คนคอนโดฯ ต้องทำตาม
  • อำนาจขืนชำระหนี้
  • คนชูไว้คอนโดฯ ใจต้องโตกว่าตึก


ชีวะของคนคอนโด ต้อง โตแล้ว ซึ่งความหมาย หมายความว่า ต้องเก่งค้ำคอใจของตนเองให้อยู่ในกฎข้อบังคับ เพื่อสาธารณะเป็นเบื้องต้น กับให้ความร่วมมือกับส่วนรวม เพื่อโน้มน้าวชักชวนมิตรสหายร่วมคอนโดฯเดียวกันให้ปฏิบัติเพื่อส่วนกลาง อันหมายถึง การปฏิบัติทำตามข้อกำหนดของอาคารชุดอย่างครบถ้วน

ประโยชน์ที่ได้รับคือ ความผารื่นเริงของชาวคอนโด พร้อมกับความเจริญของตัวอาคาร กับสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ข้างในโครงการที่เป็นทรัพย์สินส่วนกลางหรือไม่สมบัติร่วมกัน ควรระลึกถึงก่อนพร้อมทั้งหลังเข้าไปพักคอนโดก็คือ อยู่ตึกคอนโดฯ ใจต้องโตกว่าตึก

ข้อบังคับ 7 ประการของชาวคอนโด

จุดเริ่มทำต้นก็คือ
        การที่เข้ามาเป็นเจ้าของร่วมกัน นั่นหมายถึงผู้ปรากฏอยู่ภายในคอนโด นอกจากเป็นเจ้าของห้องชุดที่ซื้อแล้ว ยังจะเป็นเจ้าของร่วมในสินทรัพย์ส่วนกลางต่าง ๆ อีกด้วย

มาตรา 14 กรรมสิทธิ์ส่วนที่เป็นเจ้าของร่วมกันในทรัพย์สินส่วนกลาง ให้เป็นไปตามอัตราส่วนระหว่างค่าของห้องชุดกับราคารวมของห้องชุดทั้งหมดนั้นในขณะที่ขอจดทะเบียนอาคารชุด

อันดับที่ 2
        ความรับผิดชอบ การเป็นเจ้าของมักจักมาควบคู่กับความรับผิดชอบเสมอ ไม่ว่าจักเป็นห้องชุดไม่ก็การถือสิทธิ์การเป็นเจ้าของ ผู้หญิงของผม หรือ ผู้ชายของฉัน กฎหมายนี้กำหนดให้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่วมกันในทรัพย์ส่วนกลาง พร้อมทั้งก็กำหนดความรับผิดชอบมาพร้อมกัน

มาตรา 18 เจ้าของร่วมก็ต้องร่วมใจออกค่าใช้จ่าย ที่เกิดจากการบริการส่วนรวม พร้อมทั้งที่เกิดจากเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีไว้เพื่อประโยชน์ร่วมกันตามส่วนของการใช้คุณประโยชน์ที่มีต่อห้องชุด ทั้งนี้ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับข้างต้น เจ้าของร่วมก็ต้องร่วมกันออกค่าภาษีอากร พร้อมด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดูแลด้วยกันดำเนินการที่เกี่ยวกับเงินทองส่วนกลางตามอัตราส่วนที่เจ้าของร่วมแต่ละคนได้มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ส่วนกลางตามมาตรา14

อันดับที่ 3
        การบริหารกับจัดการ ในทางดำเนินตนนั้นย่อมไม่ได้เรื่อง ถ้าให้ผู้ซื้อห้องชุดต้องมาบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ ตามมาตรา 18 เอง ดังนั้นจึงต้องให้นิติบุคคลมาจัดการในเรื่องต่างๆนั้น พร้อมกับต้องให้อำนาจตามที่ควรจักเป็น อาทิ

มาตรา 33 นิติบุคคลอาคารชุดที่ได้มีการจดทะเบียนตามมาตรา 31 ให้มีฐานะสิทธิเป็นนิติบุคคล นิติบุคคลอาคารชุดจะมีเป้าประสงค์เพื่อจัดการ พร้อมกับดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลาง และให้มีอำนาจกระทำสิ่งใด ๆ เพื่อเป็นผลกำไรตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว ทั้งนี้แล้วตามมติของเจ้าของร่วมภายใต้การบังคับแห่งพระราชบัญญัตินี้

อันดับที่ 4
        อำนาจด้วยกันบทบาทหน้าที่ของผู้จัดการนิติบุคคลอาคารชุด นิติบุคคลอาคารชุดจะต้องมีคนบริหารจัดการ เรียกว่า ผู้จัดการ ผู้จัดการคนนี้มีอำนาจมากทีเดียวล่ะ

มาตรา 35 ให้นิติบุคคลอาคารชุด มีผู้สั่งการคนหนึ่ง ซึ่งจักเป็นบุคคลธรรมดา เจ้าของอาคารไม่ใช่หรือนิติบุคคลก็ได้ ในกรณีที่นิติบุคคลเป็นผู้จัดการ ให้นิติบุคคลนั้นแต่งตั้งบุคคลธรรมดาคนหนึ่งเป็นตัวตั้งตัวตี สับเปลี่ยนนิติบุคคลในฐานะผู้จัดการ

มาตรา 36 ผู้สั่งการมีอำนาจหน้าที่ดังถัดจากนี้

(1) ปฏิบัติการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในมาตรา 33 หรือไม่ก็ มติของที่ประชุมเจ้าของร่วม หรือคณะกรรมการนั้นตามมาตรา 37 ทั้งนี้ เพราะว่าไม่ขัดต่อข้อบังคับ
(2) ในกรณีจำเป็นด้วยกันเร่งด่วน ให้ผู้จัดการที่มีอำนาจ เพราะว่าความริเริ่มต้นของตนเองจัดการในกิจการ เพื่อความมั่นคงของตัวอาคาร ดังเช่นวิญญูชนจะพึงรักษาพร้อมกับจัดการทรัพย์สินของตนเอง
(3) เป็นผู้แทนของนิติบุคคลอาคารชุด
(4) หน้าที่อื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ผู้แก้ไขต้องปฏิบัติกิจการในหน้าที่ด้วยตนเอง เว้นแต่กิจการ ซึ่งตามข้อบังคับไม่ก็มติของที่ประชุมเจ้าของร่วมตามมาตรา 48 (3) กำหนดให้ถวายหมายให้ผู้อื่นทำ แทนได้

อันดับที่ 5
        ระเบียบขั้นแรกที่คนคอนโด ต้องทำตาม รักจะอยู่อาคารชุดก็ต้องเคารพระเบียบกฎเกณฑ์ของอาคารชุด ซึ่งมีผลบังคับใช้ทางกฎหมาย ตั้งแต่ระบุไว้ใน พ.ร.บ. อาคารชุด ไม่ก็อยู่ในระเบียบนิติบุคคลอาคารชุด อาทิเช่น

มาตรา 40 ให้เจ้าของร่วมชำระเงินให้แก่นิติบุคคลอาคารชุดเพื่อเดินกิจการของนิติบุคคลอาคารชุด ดังถัดจากนั้นนี้ (1) เงินค่าใช้จ่ายของนิติบุคคลอาคารชุดที่เจ้าของแต่ละห้องชุดจะต้องชะล้างล่วงหน้า (2) เงินทุนทันทีที่ริเริ่มต้นกระทำกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อบังคับ ไม่ก็ตามมติของที่ประชุมใหญ่ (3) เงินอื่นเพื่อปฏิบัติตามมติของที่ประชุมใหญ่ ภายใต้เงื่อนไขซึ่งที่ประชุมใหญ่กำหนด

อันดับที่ 6
        อำนาจบีบคั้นชำระหนี้ เพื่อป้องกันพร้อมด้วยแก้ไขการไม่ให้ความร่วมมือในการออกค่าใช้จ่ายเพื่อดูแลรักษาทรัพย์สินส่วนกลาง ข้อบัญญัติอาคารชุดได้ให้อำนาจนิติบุคคลอาคารชุดไว้แล้ว กับอย่าลืมว่า ผู้จัดการฯ มักจักเป็นผู้ใช้อำนาจนั้น

มาตรา 41 เพื่อผลดีในการบังคับชำระหนี้อันเกิดจากค่าใช้จ่ายตามมาตรา 18 ให้นิติบุคคลอาคาร ชุดมีบุริมสิทธิ ดังนี้
(1) บุริมสิทธิเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตามมาตรา 18 วรรคหนึ่ง ให้ถือว่าเป็นบุริมสิทธิในลำดับเดียวกับ บุริมสิทธิตามมาตรา 259 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งพร้อมกับพาณิชย์กับมีอยู่เหนือสังหาริมทรัพย์ที่เจ้าของห้องชุดนั้นนำมาไว้ในห้องชุดของตน
(2) บุริมสิทธิเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตามมาตรา 18 วรรคสอง ให้ถือว่าเป็นบุริมสิทธิในลำดับเดียวกับ บุริมสิทธิตามมาตรา 273 (1) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งด้วยกันพาณิชย์ กับมีอยู่เหนือพิตรส่วนบุคคล ของแต่ละเจ้าของห้องชุด บุริมสิทธิตาม (2) ถ้าผู้จัดการได้ส่งรายการหนี้ต่อเสมียนเจ้าหน้าที่แล้วให้ถือว่าอยู่ในลำดับก่อน จำนอง

แพร่ความให้ชัดเจนก็คือนิติบุคคลอาคารชุดมีกรรมสิทธิ์ในธนทรัพย์ต่าง ๆ ในห้องชุดเหนือกว่าเจ้าของห้องชุดแต่ละห้องด้วยซ้ำ และเหนือกว่าเจ้าหนี้ทุกราย  อำนาจเช่นนี้แหละ ที่เอื้อให้นิติบุคคลอาคารชุดในทางกระทำก็คือ ผู้จัดการอาคารชุดเก่ง บังคับ เจ้าของอาคารชุด ให้รับผิดชอบภาระหน้าที่ของตนเองได้ ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายเงินค่าบำรุงส่วนกลาง การจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าโทรศัพท์กับอื่น ๆ ทั้งนี้โดยมีคณะกรรมการควบคุมการจัดการนิติบุคคลอาคารชุดดูแล เพราะว่ามีการประชุมใหญ่ ใช่ไหมประชุมเจ้าของร่วมทั้งหมดหนุนหลังในขั้นสุดท้าย ด้วยกันตราบพิจารณาลักษณะการประชุมใหญ่แล้ว ก็สามารถสนับสนุนการ บังคับ ต่าง ๆ ได้

อันดับที่ 7
        คนไปคอนโดใจต้องโตกว่าตึก ว่าไปแล้วปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมสูงระฟ้า กับการแก้ไขปัญหาไม่ใช่อยู่ที่นิติบุคคลอาคารชุด พร้อมกับผู้จัดการอาคารชุดมีอำนาจตามกฎหมายเหรอไม่ แต่อยู่ที่มีศักยภาพทำให้อำนาจนั้นมีผลบังคับหรือว่าไม่ ไม่ใช่หรือว่าไปแล้วปัญหาอยู่ที่ ผู้คนที่อาศัยในอาคารชุดใหญ่โตโอฬาริกนั้น มีวุฒิภาวะมากพอหรือไม่ก็โตพอแล้วหรือไม่ยัง ความผาสุขของชุมชนระฟ้าจักสมบูรณ์สวยงาม หรือขาดวิ่นเว้าแหว่งก็ขึ้นอยู่กับคนในคอนโด เองว่าจะทำตาม บัญญัติ 7 ประการ นี้หรือไม่ ทั้งนี้มี ใจที่โตพอ รับผิดชอบกับละวางพอเป็นแกนกลาง

เกาะติดข่าวสารของคอนโด โครงการคอนโดใหม่
ได้ ขอบคุณข้อมูลดีที่เอามาแชร์ จาก : cmc.co.th
ที่มา : propertytothai

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เคล็ดชี้ทางก่อนซื้อบ้าน - คอนโดหลังแรก

 ข้อเสนอ ก่อนซื้อบ้าน คอนโดหลังแรก

              ข้อมูลบางส่วนของไมเคิล ไอเซนเบิร์ก ผู้เข้าใจแจ่มแจ้งด้านการเงินส่วนคน จากเว็บไซต์ฟิเดลิตี้ เงินทุนใหญ่อันดับหนึ่งของสหรัฐ ในหัวเรื่อง เคล็ดแนะนำนำผู้บริโภคซื้อหาบ้านหลังแรก เพื่อช่วยให้คนไทยที่ต้องประสงค์ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นบ้านไม่ก็คอนโดมิเนียมหลังแรกเพื่อไว้เป็นของตนเอง เพราะอย่างนี้ไอเซนเบิร์กนั้น ยังมีคำแนะนำอีกชิ้นหนึ่งที่เหโจษ มาฝากให้กับคนไทยทั้งในและต่างประเทศได้นำข้อมูลของเขา ไว้ไปประยุกต์ใช้ได้ เพื่อตั้งข้อสังเกตให้คำนึงฉุกคิด และผู้ที่โหมโรงต้นจากพื้นฐานไม่มีความแน่ใจเลย หรือไม่รู้อะไรเลย พร้อมด้วยต้องใคร่ครวญมองดูให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน

1. ต้องมีเงินออมเผื่อขาดเผื่อเหลือฉุกเฉิน เป็นอีกไอเดียหนึ่งที่เตือนใจก่อนให้ความเห็นในชะง่อนบวกของไอเซนเบิร์กที่ว่า ต่างว่าคุณมีเงินสดอยู่ในมือพ่างพอแล้ว ที่จักครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพนาน 3-6 เดือน นั่นหมายถึงการที่ได้ก้าวเข้าใปใกล้ภาวะเตรียมตัวเป็นเจ้าของบ้านเหรอคอนโดได้แล้ว แต่ไอเซนเบิร์ก ก็ขอให้ผู้บริโภคคนไทย นึกถึงสภาพการณ์บางอย่างที่ไม่ดี ที่จักทำให้รายได้ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องนั้น เกิดสะดุดติดขัด เช่น กรณีป่วยป่วยรุนแรง การให้ออกพนักงาน หรือว่าแม้แต่วินาศภัย ซึ่งเป็นเหตุไม่คาดฝัน ทำให้คุณไม่ทำได้ทำงานกับหารายได้ตามธรรมดา คุณต้องแน่ใจก่อนว่านะว่ายังมีเงินรองรัง ช่วยให้การชำระหนี้เพื่อที่อยู่อาศัยไม่สะดุด พร้อมทั้งศักยผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากไปได้

2. ศักยควบคุมหนี้ไม่ให้บานปลายได้ บรรดาสถาบันการเงินต่างๆ ที่เป็นเจ้าหนี้ ยอมกู้ทุกวันนี้ เครือข่ายมีระบบที่สร้างความมั่นใจได้ว่า ลูกหนี้หรือไม่ก็ผู้ซื้อบ้านต้องการเงินกู้ มีเงินเพียงพอแต่ละเดือนเพื่อสังคายนาหนี้ ดังนั้น ก่อนที่ทั้งหลายธนาคารหรือสถาบันการเงินอู่อื่นเป็นเจ้าหนี้อนุมัติสินเชื่อให้ ลูกหนี้ ต้องพิจารณาสัดส่วนหนี้ต่อเงินได้ของผู้กู้เสียก่อน แต่เพราะทั่วไปแล้ว ไอเซนเบิร์กต้องการให้ลูกหนี้นั้น ประเมินตัวเองเสียก่อน เหตุด้วยให้แน่ใจได้ว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเฉพาะบ้านใช่ไหมคอนโด ซึ่งรวมถึงเงินโอน ดอกเบี้ยกับภาษีอีกทั้งเงินประกันภัย ถ้าหากรวมแล้วต้องไม่มากเกินกว่า 33% ของเงินรายได้รวมในแต่ละเดือน ขณะที่พระราชภารกิจหนี้ที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน ซึ่งหนี้ฝ่ายนี้รวมถึงหนี้ที่ต้องผ่อนบ้าน หนี้บัตรเครดิต หนี้เพื่อการศึกษา พร้อมกับหนี้ต้องผ่อนปรับปรุงค่ารถยนต์ ต้องต่ำกว่า 38% ของค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ดังนั้นเป็นไอเดียที่ดีกว่า ถ้าหากผู้คิดจักซื้อบ้าน ซึ่งเดิมมีหนี้ก้อนใหญ่จะเพียรลดมูลหนี้ให้น้อยลง ก่อนตัดสินใจขอสินเชื่อเพื่ออสังหาริมทรัพย์ กับต้องชัวร์ก่อนว่าตัวเองมีคุณสมบัติเช่นพอที่จะขอเงินกู้ได้มากตามความ จำเป็น

3. แน่ใจได้หรือไม่ยังประวัติเครดิตขอสินเชื่อไม่มีปัญหา ในต่างประเทศ ณ เวลานี้ ผู้ขอกู้ซื้อที่อยู่อาศัย ไม่จำเป็นจักต้องมีพระราชประวัติการขอสินเชื่อที่ดี 100% เพื่อให้มั่นใจว่าจักได้รับอนุมัติเงินกู้ซื้อบ้าน แต่แค่มีเรื่องราวการเงินพอใช้ใช่ไหมข้ามได้ก็เป็นได้ช่วยให้ผู้ขอกู้ ได้ดอกเบี้ยที่ต้องผ่อนค่าชำระลดลง ด้วยกันจำนวนเงินที่ต้องผ่อนในแต่ละเดือน ผ่อนได้น้อยลงด้วย ในประเทศสหรัฐ คนไทยที่พักอยู่ ก็ได้รับการช่วยเหเล่าลือจากทางภาครัฐ ให้ตรวจสอบความเป็นมาทางการสินทรัพย์ของตัวเองได้ทุกปีจากเว็บไซต์ annualcreditreport.com เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิน เพราะข้อมูลที่เข้าไปตรวจสอบเป็นข้อมูลที่ได้จากเครดิตบูโรสำคัญ 3 แห่ง ดังนั้น ผู้บริโภคที่ต้องการจะขอกู้เงินซื้อที่อยู่อาศัยนั้น ก็เป็นได้เข้าไปดูข้อมูลซึ่งบรรดาสถาบันทางการเงิน ก็ใช้เป็นข้อมูลในการตรวจสอบเช่นกัน ก่อนที่จักปลงใจให้เงินกู้ คำแนะนำในข้อนี้จะช่วยให้ผู้ขอกู้ เพิ่มความระมัดระวังในการขอสินเชื่อของตัวเอง ซึ่งอาจมีผลต่อให้ การตัดสินใจของผู้ให้กู้ได้

4. ซื้อที่อยู่อาศัยควรถือครอบครองสิทธิไว้ให้นานที่สุด ข้อนี้เป็นการกำชับใจให้ผู้คิดที่จักซื้อบ้านไม่ก็คอนโดว่า พร้อมใช่ไหมทำใจยังว่าการมีบ้านหรือไม่ก็คอนโดเป็นของตัวเอง ควรจะอยู่ให้นานอย่างน้อย 3-5 ปีได้ไม่ใช่หรือไม่ ด้วยกันต้องคำนึงถึงตอนเวลาด้วยว่า จักทำที่พักอาศัยให้เรียบร้อยลงตัว ก่อนที่คิดจักทำธุรกรรมขายต่อได้ไม่ก็ไม่ เพราะว่าถ้าขายก่อนเพลาอันสมควร ผู้ซื้ออาจจะขาดเงินทุนจากธุรกรรมได้ ในต่างประเทศอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา สมมติว่าผู้ซื้อคิดหาทำผลกำไรกลับคืนจากการซื้อที่อยู่อาศัย เจ้าของบ้านนั้นจักต้องจ่ายภาษีจากกำไรที่ขายได้ แต่สมมตพักอาศัยอยู่ในบ้านไม่ถึง 2 ปี ระยะเวลาในการพักอาศัยจึงสำคัญมาก ด้วยกันถ้าคิดว่าตัวเองไม่อาจพักอาศัยได้นาน ผู้ซื้ออาจจักคิดอีกมุขหนึ่งคือซื้อของเพื่อธุรกิจให้เช่าจะดีกว่า

5. ฉลาดจัดแจงตัวที่จักเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ไอเซนเบิร์กได้พูดเตือนว่า แม้คุณนั้นทำได้ซื้อหรือไม่เป็นเจ้าของที่พักอาศัยได้ แต่อย่าตัดสินใจง่ายๆ พางก็เพราะว่ามีแค่ศักยภาพการเงินที่จะซื้อ แต่ขอให้แน่ใจก่อนว่าพร้อมที่จะใช้ชีวิต พร้อมทั้งศักยดูแลรักษาบำรุงสถานที่อยู่อาศัยได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม ในพอการเป็นเจ้าของที่พักอาศัย สมมติว่าเกิดชำรุดเสียหาย ผู้ซื้อหรือไม่ก็เจ้าของต้องเป็นคนจัดการ กับต้องจ่ายเงินให้ช่างซ่อมแซมแทน นอกจากนี้เจ้าของหรือว่าผู้ซื้อ ยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายการดูแลบ้านเป็นประจำอีกด้วย ซึ่งรวมถึงงานเอาอกเอาใจรักษาบ้านหลังเล็กๆ ของคุณ ในกรณีที่คุณซื้อที่พักพึ่งพิงในต่างประเทศ ขอให้นึกถึงอนาคตกาลหลังการซื้อว่า มีเวลากับพลังและความมุ่งมั่นที่จักดูแลอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองอย่างยิ่งจังไม่ก็ไม่

6. เสาะแสวงข้อมูลเพิ่มเติม คือคำแนะนำในบั้นปลายที่ไอเซนเบิร์กต้องการให้คนไทยในสหรัฐ เข้าไปพิจารณาหาประกาศเพิ่มเติมได้เพราะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย จากเว็บไซต์  360financialliteracy.org ของ American Institute of Certified Public Accountants' หรือไม่ก็ เอไอซีพีเอ โดยคุณอาจจะเข้าไปในเว็บไซต์ข้างต้น เพื่อดูประเด็นและหัวข้อเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลของคุณ เพื่อหาข้อมูลใช่ไหมทางเลือกระฉ่อนก ที่จักช่วยจัดการดำเนินงานทางการเงินของตัวเองได้ เหตุด้วยเวบไซต์ของเอไอซีพีเอนั้นรวบรวมบทความ วิธีการคำน  วณ และเครื่องมืออื่นๆ ที่ช่วยให้คนไทยในสหรัฐพร้อมด้วยในประเทศอื่นๆ ทั่วโลก รอบคอบพร้อมกับระวังทุกๆ ด้าน ก่อนปลงใจควักเงินซื้อที่อยู่อาศัยหลังแรกในชีวิตของตัวเอง


ขอบคุณ : cmc.co.th
บทความจาก : thaihomemasterm
เพราะ ดร.ศุภวิศวร์ ปัญญาสกุลวงศ์ และ คุณกฤษณ์ แย้มสระโส

วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ข่าวคราวการดึงซื้อบ้าน / คอนโดของแบงค์

วงอัฐกู้ของธนาคารนั้นที่แต่ละคนจะได้รับขึ้นอยู่กับเหตุ อะไรบ้าง


คนที่ทำธุรกิจส่วนใหญ่ มักจักคุ้นเคยกับคำว่า วงเงินกู้ (Loan) เป็นอย่างดี ซึ่งการที่จะกู้เงินจากธนาคารได้นั้นธุรกิจการค้าจักต้องมีวัตถุประสงค์ที่แจ้ง อีกทั้งต้องบ่งว่า วงเงินที่ต้องการใช้ ช่วงเวลาจ่ายชำระคืน พร้อมด้วยที่สำคัญคือต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงินกู้ให้กับธนาคาร เช่น ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร เป็นต้น ข่าวคราววงเงินกู้ของแบงก์ วงเงินนั้นที่แต่ละคนจะได้รับจะขึ้นอยู่กับหลายสิ่งของ โดยศักยแบ่งออกได้ดังนี้

1. อัตราเงินเดือนกับภาระหนี้ ค่าเพราะว่าประมาณจะได้ 50 เท่าของเงินเดือน เช่น ถ้าเงินเดือน 20,000 พร้อมกับไม่มีภาระหนี้ใดๆ วงเงินกู้ที่ได้่จะเกือบ 1,000,000 (20,000 x 50 เท่า) แต่ถ้าคุณมีผ่อนอะไรอยู่ก็จะหักจากค่าแรงก่อนแล้วค่อยคูณด้วย 50

บางคนที่มีเงินล่วงเวลาหรือไม่ก็เงินเงินรายได้พิเศษนอกเหนือไปจากเงินเดือนประจำ บางธนาคารก็ไม่เอามาคิด บางธนาคารก็เอามาคิดแค่ 50% ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกฎและนโยบายของแต่ละธนาคาร ซึ่งคนกู้จักต้องเช็คกับทางแบงค์อีกที

จำนวนรวมวงเงินกู้ อาจได้มากหรือว่าน้อยกว่า 50 เท่า ขึ้นอยู่กับเครดิตของผู้กู้ ความมั่นคงของภาระหน้าที่การงาน กับพระประวัติการชำระหนี้อื่นๆ ก่อนหน้านี้ ส่วนผู้กู้ที่ทำงานบริษัทที่มีสวัสดิการกู้ซื้อบ้านกับทางธนาคาร ธนาคารมัก อนุญาตกู้ง่ายพร้อมด้วยให้โควตาวงเงินมากกว่าปกติ

2. มูลค่าประเมินบ้านไม่ใช่หรือคอนโดมิเนียมของทางธนาคาร สนนราคาประเมินที่กล่าวถึง ทางธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่ไปสำรวจบ้านที่เราจะซื้อกับประเมินสนนราคา พวกบ้านหรือไม่ก็คอนโดใหม่ บางแบงค์ให้กู้เต็มค่าประเมิน ส่วนพวกป่าวขายบ้าน / คอนโดมือสอง บางแบงค์ก็ให้กู้เต็ม แต่ส่วนมากมักให้แค่ 80% ของราคาประเมินธนาคาร อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของแต่ละแบงค์ที่มีอยู่ ทั้งนี้ถ้าได้ค่าประเมินบ้านสูงกว่าฐานของเงินเดือนตามข้อที่ 1 คุณก็กู้ได้สูงสุดตามข้อ 1 ด้วยกันถ้าราคาประเมินบ้านต่ำกว่าวงเงินตามฐานค่าแรงในข้อที่ 1 คุณก็กู้ได้สูงสุดตามสนนราคาประเมินบ้าน

3. อายุของผู้กู้ แบงก์ส่วนมากให้ผู้กู้เป็นได้ชำระหนี้ได้จนถึงอายุ 60 บางแบงก์อาจถึง 65 ดังนั้นถ้าคุณอายุมากมาย จำนวนปีในการสะสางหนี้จะน้อย ซึ่งก็หมายความว่าค่าผ่อนคลายชำระหนี้ในแต่ละเดือนนั้นจักสูง เช่น อายุ 55 ขอกู้เงิน 3,000,000 ซึ่งคุณจักสามารถผ่อนได้แค่ห้าปี ดังนั้นโควตาเงินผ่อนแต่ละเดือนจักสูงมาก ซึ่งเพราะว่าทั่วไปแล้วธนาคารจักให้ผ่อนได้ไม่เกินเกือบๆ 40% ของเงินเดือน ถ้าแม้เกิน ธนาคารก็จะลดวงเงินกู้คุณลง

ผู้กู้ทำเป็นกู้เพิ่มเป็นค่าประดับได้อีกเกือบๆ 10% ของวงเงินกู้บ้านที่ทางธนาคารอนุมัติให้ เช่นถ้าแบงค์อนุมัติวงเงินดึงซื้อบ้านให้คุณที่หนึ่งล้านบาท คุณสมรรถกู้เพื่อตกแต่งเพิ่มได้อีกจำนวนหนึ่งแสนบาท แต่อัตราดอกเบี้ยเพื่อเงินกู้ตกแต่งจะสูงกว่าเงินกู้ซื้อบ้าน

ข้อบังคับดังกล่าวนั้นไม่ได้ตายตัว แบงก์แต่ละแห่งก็จะมีข้อตรวจสอบที่แตกต่างกัน ที่กล่าวมานั้นเป็นเช่นแนวทางคร่าวๆ ทั้งนี้ผู้กู้ควรติดต่อถามเจ้าหน้าที่สินเชื่อของแต่ละธนาคารจะดีที่สุด หรือไม่ก็โทรไปตามที่ Call Center ที่มีบริการในแต่ละแบงก์ก่อนก็ได้ ทางเจ้าหน้าที่อาจจักให้ข้อมูลคร่าวๆ ได้เช่นกันค่ะ

ข้อคิดเห็น:

1. คนที่ทะเยอทะยานมีบ้านหรือไม่คอนโด แต่ไม่รู้จักเริ่มต้นยังไง ขอให้โหมโรงจากการตีราคาวงเงินกู้ของตนเองก่อนว่าธนาคารจะ ปลดกู้ให้คุณได้เท่าไหร่ คุณสามารถติดต่อเสมียนสินเชื่อแต่ละธนาคาร (แนะนำให้โทรศัพท์กับธนาคารที่่คุณมีบัญชีเงินเดือนไม่ก็ธนาคารที่บริษัทคุณมีสวัสดิการก่อน เพราะธนาคารพวกนี้จะศักยเช็คข่าวของคุณได้ง่ายจากบัญชีของคุณ กับความเป็นไปได้ในการได้รับอนุมัติก็จะมีมากกว่าธนาคารที่คุณไม่เคยเป็นลูกค้ามาก่อนเลย) เราเป็นได้เช็คหลายๆแบงก์ได้พร้อมกัน เป็นแค่ขั้นตอนของ การขอข่าวจากธนาคาร ไม่ได้ทำเรื่องกู้

2. หลังจากประจักษ์แจ้งวงเงินที่คุณรอบรู้กู้ได้ ก็ค่อยไปมองหาดูบ้านใช่ไหมคอนโดที่อยู่ในงบของคุณ จักได้ไม่ต้องเสียเวลาไปดูบ้านหรือว่าคอนโดที่มันแพงๆ แล้วมารู้ที่หลังว่าคุณกู้ไม่พ้นเพราะบ้านแพงไป

3. อย่าซื้อบ้านหรือคอนโดเกินกำลังและฐานะของตนเองมากเกินไป เพราะว่าถ้าคุณกู้สูงๆ แล้วค่าผ่อนต่อเดือนมันก็จะบานตะไทมาก อย่าลืมนึกถึงค่าตกแต่งที่จะตามมาอีกมากมาย รวมถึงเผื่อไว้ในกรณีฉุกเฉินที่เราต้องใช้เงิน เช่น เจ็บป่วยใช่ไหมอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันที่ต้องการใช้เงิน ถ้าหมายผ่อนแบบไม่หนักมาก ควรผ่อนแค่คาดว่า 30% ของเงินเดือน

4. ให้เลือกระยะปีในการผ่อนให้นานที่สุด ถ้าเก่งเฟุ้งเฟื่องกแบบ 30 ปี ก็เเอิกเกริกกแบบ 30 ปีไปก่อน เวลามีเงินคุณก็ค่อยเอาไปโปะเรื่อยๆ เพราะการเโจษจันกระยะเวลาผ่อนที่นาน จักทำให้ค่าผ่อนที่ต้องจ่ายต่อเดือนไม่มาก เช่นถ้าคุณกู้ 1,000,000 บาท เลือเลื่องกผ่อน 30 ปี คุณต้องมอบต่อเดือนหมาย 6,000 บาท แต่ถ้าคุณเละบือกผ่อนที่ 10 ปี คุณต้องจ่ายต่อเดือนคาดคะเน 11,000 บาท คุณเโจษจันกแบบ 30 ปี แล้วค่อยๆ เอาเงินไปโปะเรื่อยๆ ให้หมดภายในสิบปี ดอกเบี้ยที่เสีย ก็ไม่ต่างกันมากค่ะ อันนี้จักช่วยคุณได้ในกรณีฉุกเฉินที่คุณต้องใช้เงิน กับทำให้คุณนั้น ไม่เครีดมากในการจัดการค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน


ค่าธรรมเนียมการโอน:

1. ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ( หัก ณ ที่จ่าย ) = ตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร
2. ค่าธรรมเนียมการทำนิติกรรม ( ค่าโอน ) = 2 % จากสนนราคาประเมินของกรมใช่ไหมค่าขาย แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า
3. ค่าจดจำนอง ( กรณีจำนองกับสถาบันการเงิน ) = 1% ของมูลค่าที่จำนอง (จำนวนที่กู้ทั้งหมด)
4. ค่าอากรแสตมป์ (ชำระอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่าง อากรแสตมป์ ไม่ก็ธุรกิจเฉพาะ) = 0.50% ตามราคาซื้อขายแต่ ไม่ต่ำกว่าสนนราคาประเมินของกรม
5. ภาษีธุรกิจเฉพาะ ( ไม่ต้องชำระแม้ถือครองเกิน 5 ปี เหรอมีชื่อในทะเบียนบ้านเกินหนึ่งปี) = 3.3% ของราคาซื้อขายที่ไม่ต่ำกว่าสนนราคาประเมินของกรม
ค่าธรรมเนียมการโอนอาจออกคนละครึ่งระหว่างผู้ซื้อด้วยกันผู้ขาย หรือว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกทั้งหมด อันนี้ขึ้นอยู่กับการตกลงกันแต่แรก ดังนั้นควรตกลงเรื่องค่าธรรมเนียมการโอนต่างๆ ก่อนทำปฏิญาณจักซื้อจะขาย เพราะว่าอาจมีการโต้เถึยงเกิดขึ้นได้ในวันโอน ทางที่ดีควรรวมรายละเอียดค่าธรรมเนียมการโอนไว้ในข้อสัญญาจะซื้อจะขายด้วยเพื่อป้องกันการโต้เถียงกันภายหลังโ

ข้อมูลจาก  (cordia.bloggang)

เคล็ด 10ข้อ ตั้งแต่งห้องนอนเล็กๆทำนองให้สวยหยาด

10 กลยุทธ์เคล็ดลับ เกลาห้องนอนเล็กๆของคุณให้สวยหยาด

ไม่ว่าห้องนอนจะอยู่ในคอนโด เหรอที่บ้าน แต่หลายแห่งมักจักแบ่งห้องหรือไม่ก็ซอยห้องออกมาเล็กจนน่าอึดอัดกับลมเสีย พอครั้นจักแผ่ขยายต่อเติมออก ก็ไม่มีงบพอใช่ไหมไม่มีพื้นที่เหเลื่องแทบพอที่จะขยายได้อีก แล้ววันนี้เรามาใช้เคล็ดการตกแต่งให้เป็นประโยชน์กันนะคะ กับเคล็ดที่จักช่วยให้คุณนั้น ตกแต่งห้องนอนขนาดเล็กของคุณให้ดูใหญ่ขึ้น น่านอนมากขึ้น

1. หากคุณไม่ชอบห้องสีขาวไม่ก็อาจจักเพิ่งได้ห้องคอนโดใหม่มา แต่ไม่รู้จะใช้สีไหนดี ลองนำไอเทมสีเด่นเตะตามาตกแต่งห้องนอนดู อย่างห้องนี้ที่ใช้หมอน กับผ้ากรูมเตียงที่เป็นสีส้มแดงเตะตา เข้ากับผนังจีนทำจากไม้พร้อมทั้งเพ้นท์สีทองจาง ๆ ทำให้ห้องดูเด่นขึ้นได้ อีกทั้งเก้าอี้ไม้สานโปร่งก็ช่วยให้ห้องดูกระจ่างไปด้วยเช่นกัน

2. เปิดเบื้องให้แสงทะลุทะลวงเข้ามาภายในห้องบ้าง ช่วยให้ห้องสว่างมากขึ้น แต่เพิ่มความเป็นส่วนตัวจักติดตั้งมู่ลี่แบบม้วน ไม่ใช่หรือแบบเกี่ยวที่ทำจากผ้าลูกไม้ใช่ไหมผ้าทอมือก็ไม่เลวเสมือนกัน 
3. กระจายพื้นที่หัวเตียงให้กลายเป็นเป็นชั้นวางของเสียเลย ด้วยว่าคนที่มีข้าวของเครื่องใช้ไม่ก็หนังสือมาก ๆ ชี้ช่องว่าควรเป็นชั้นบิ๊วอินที่สูงจากพื้นถึงเพดาน จักช่วยให้ห้องดูโอ่โถงมากขึ้น เก่งติดตั้งไฟอ่านหนังสือได้ และทำอะไรได้สารพัดสารพันเลยเชียวแหล่ะ

 4. อย่ากลัวการใช้หน้าต่าง หน้าต่างจะเป็นตัวช่วยชี้นำแสงสว่าง ด้วยกันความโปร่งเข้ามาในห้อง บอกช่องทางว่าควรผลักเตียงให้ชิดหน้าต่างไปเลย จักเพิ่มอาณาเขตห้องให้มากขึ้นได้ กับเพื่อความเป็นส่วนตัวในเวลากลางคืน คุณเป็นได้เเลื่องลือกติดตั้งมู่ลี่ไว้บนหน้าต่างได้ด้วยเช่นกัน
5. ทริกแบบคลาสสิกสุด ๆ ก็คือใช้คันฉ่องช่วยนั่นเอง ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้อีกมาก แถมกาลเวลานี้ยังมีกระจกหลายเฉดสีให้คุณเเลื่องลือกตามสไตล์ของห้องได้ด้วยนะคะ

 6. สมมติว่าเขตแดนค่อนข้างคับแคบ ลองเร่ำลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สั่งผลิตดู อย่างห้องนี้ที่มีบริเวณอยู่ใต้หลังคา เพดานจึงเอียงเอียงอย่างที่เห็น ถ้าหากใช้เตียงธรรมดาคงจักไม่ได้แน่ จึงได้จ้างช่างมาดีไซน์ให้พอดีกับพื้นที่ แถมยังเป็นเตียงคู่เสียด้วย อีกทริกก็คือการเเล่าลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความโปร่งใส ทำให้ไม่เกะกะสายตา ไม่ใช่หรือทำให้รกเรื้อ อย่างเก้าอี้อะคริลิกในห้องนี้เป็นต้นค่ะ
   
7. สมมุติห้องนอนของคุณกิ่วลึก เปรียบเสมือนห้องนอนห้องนี้ ลองรจิตผนังด้านในที่ลึกที่สุด ให้ไพจิตรโดดเด่นที่สุด ด้านเดียวไปเลย จะดึงสายตาดึงความสนใจไปที่ผนังห้องได้ อย่างห้องนี้เร่ำลือกใช้วอลล์เปอร์สีฟ้าอ่อนพิมพ์ลายสีบรอนซ์ทองดูหรูหรา อีกทั้งผ้าคลุมเตียงยังมีความแวววาม จึงเข้ากันได้ดีด้วย

8. ลองดูทำให้ Headboard ของคุณแปรไปเป็นพื้นที่เพราะด้วยทำงานเสียเลย นี่เป็นตู้ที่มีสองด้าน ด้านที่หันเข้าหาเตียงจักเป็นชั้นรายงาน เว้นที่ด้านซ้ายไว้เล็กน้อยเพื่อวางโคมไฟ ที่ให้อาภาถึงโต๊ะทำงานอีกฝั่งได้ด้วย เหมาะเกี่ยวกับห้องนอนหน้ากิ่วลึกอีกเช่นกัน
9. แต่งฝาผนังด้วยลวดลายพร้อมทั้งสีสันที่โดดเด่นดึงดูดสายตาไปเลย ก็สวยไปอีกแบบ อย่างห้องนี้ที่เร่ำลือกวอลล์เปเปอร์มากรุกำแพงลาดเอียงซึ่งเป็นห้องใต้หลังคา ให้มีลวดลายกราฟฟิก ยืนยันว่าถูกใจเด็กวัยรุ่นที่บ้านของคุณแน่ ๆ


10. สีขาวยังไงก็ไม่คลาดแน่.. แม้จะดูน่าเบื่อ แต่อันที่เป็นแน่แท้แล้วขึ้นอยู่กับการอลงกตมากกว่า ลองแปลงแบบห้องนี้ก็ได้ค่ะ ควบคุมโทนสีขาว เทา แนวธรรมชาติเข้าไว้ ทำให้เสร็จแต่น้อยสไตล์มินิมัลลิสต์ แค่นี้คุณก็ได้ห้องนอนที่ทั้งอบอุ่น สว่าง พร้อมกับเท่เกินใครแล้วค่ะ

ขอขอบคุณภาพจาก : st.houzz.com
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : homenayoo.com

วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ค่าส่วนรวมคอนโด เก็บน้อยหรือว่ามาก ขึ้นอยู่กับกับอะไร

ค่าศูนย์กลาง คอนโด เก็บน้อยเกินไปก็ไม่ดี มากเกินไปก็ไม่ไหว

“ค่าส่วนกลาง” เป็นค่าครองชีพที่เอ้มากของผู้ที่ซื้อคอนโดมิเนียม ไม่ใช่หรือเจ้าของห้องชุดที่จำเป็นจะต้องช่วยกันจ่ายส่วนนี้ ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าตอนต้นที่เราซื้อโครงการคอนโดใหม่มา ทางโครงการก็จะเปรย หรือไม่มีงานพิมพ์การขายกำหนดอัตราค่าส่วนกลางไว้แล้ว ว่าจะเก็บตารางเมตรละเท่าไหร่อะไรอย่างไรมั้ง ซึ่งอัตราจัดเก็บส่วนนี้ รอบรู้เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ แต่ต้องเป็นอยู่ในมติของที่สัมมนาใหญ่

ค่าศูนย์กลางของคอนโด นั้น ขณะเทียบสนนราคากับบ้านจัดสรรแล้ว จักแพงกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าโครงการคอนโดฯ จะมีสิ่งที่อวยความสะดวกต่างๆ ที่ใช้ร่วมกันมากกว่า หรือไม่มีเหตุที่ให้ต้องใช้จ่ายมากกว่า เช่น เงินค่าจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย, เงินค่าจ้างพนักงานเก็บขยะ, เงินค่าจ้างแม่บ้าน, มูลค่าไฟฟ้าในบริเวณที่เป็นพื้นที่ของศูนย์กลาง อย่างลิฟต์, บันได, ค่าไฟที่อยู่นอกห้องชุด (ค่าไฟ, แอร์พร้อมทั้งโทรทัศน์บริเวณล็อบบี้) , ค่าเครื่องมือวัสดุทำความงดงาม อื่นๆ

เพราะว่าธรรมดาในวันโอนกรรมสิทธิ์ผู้ซื้อมักจักต้องชำระ “ค่าส่วนรวมล่วงหน้า” ซึ่งทั่วไปแล้วกะเกณฑ์เอาไว้ 1-2 ปี ส่วนอัตราเท่าไหร่นั้นก็แล้วแต่โครงการจักกำหนด นิติบุคคลอาคารชุดแต่ละแห่งจะมีมาตรการในการจัดเก็บค่าศูนย์กลางไม่เหมือนกัน แล้วแต่ข้อบังคับของนิติบุคคลอาคารชุดนั้นๆ เงินจัดเก็บเพราะว่าค่าสาธารณะนี่กฎหมายหมายไว้ให้ทำเป็นนำไปเป็นค่าใช้จ่ายพรรค์ “บริการสาธารณะ” ได้ แต่ทั้งนี้ต้องเท่านั้นในกรณีที่ผู้จัดสรรที่ดินได้เขียนข้อปลีกย่อยไว้ในแผนการงานโครงการ และวิธีการจัดสรรว่าจักเรียกเก็บประโยชน์บริการสาธารณะจากผู้ซื้อที่ดินปันส่วน ตามอัตราที่ได้รับยอมให้จากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินที่หมายไว้ไว้ในขั้นตอนการยื่นคำขอจัดแบ่งเท่านั้น

เว้นแต่นี้ยังมีค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการทำงาน ไม่ก็การดูแลบริหารการจัดการของเงินทองส่วนกลางด้วย เช่นเงินเดือนของผู้สั่งการฝ่ายนิติบุคคลอาคารชุด ราคาโทรศัพท์ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเครื่องใช้พร้อมกับวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ในสำนักงานนิติบุคคลอาคารชุด กินความค่าครองชีพที่ไม่ประจำ เช่น ค่าปรับปรุงระบบไฟฟ้า ประปา เป็นต้น

ภาระหน้าที่ของเจ้าของห้องชุดคอนโด ที่ต้องคลี่คลายค่าส่วนกลางทุกเดือนโดยมากรับรู้ กันทั่วไปแล้ว แต่ที่ยังมีข้อสงสัย อยู่บ้างคือข้อสงสัยที่ว่าทำไมค่าส่วนกลางถึงแพงจัง ?

อัตราค่าส่วนกลาง จะถูกใช่ไหมแพงขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยหลายต้นเหตุ สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการที่มากน้อยไม่เท่ากัน จึงทำให้ค่าสาธารณะแต่ละแผนไม่เท่ากัน ถ้ามีสิ่งอำนวยความง่ายดายมากค่าส่วนกลางก็สูง เรียกว่าใช้มากก็ต้องจ่ายมากทำนองนั้น นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับระดับไม่ใช่หรือชนิดคอนโดด้วย เช่น แผนการไฮเอนด์หรูๆ แน่นอนค่าสาธารณะก็ต้องแพง เพราะมาตรฐานในการบริหารจัดการอาคารไม่ใช่หรือพื้นที่ศูนย์กลางต้องสูงไปตามระดับ จำนวนยูนิตในแต่ละโครงการก็มีผลเช่นกัน โครงการที่จำนวนยูนิตน้อยค่าส่วนกลางจักสูง ก็เพราะว่าตัวหารเกลี่ยน้อยกว่า

เชื่อได้เลยว่า ถ้าเลือกระฉ่อนกได้ทุกคนก็คงเโจษกคอนโดฯ ที่ค่าส่วนกลางถูกกว่าอย่างแน่นอน แต่ในความนักนั้นคอนโดฯ ที่ค่าส่วนกลางต่ำๆ ก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูกที่ควรที่สุดเสมอไป ก็เพราะว่าถ้าสาธารณะมันต่ำเกินไป ก็อาจทำให้การบริหารจัดการ หรือการดูแลอาคาร ด้วยกันพื้นที่ศูนย์กลางทำได้ไม่เต็มที่ ใช่ไหมบริหารกันไปแบบตามมีตามเกิด เสมือนสายการบินโลว์คอส ที่จักทำอะไรก็ต้องอดออมไว้ก่อน

แต่เหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ แทบจักไม่มีคอนโด ไหนที่สมรรถเก็บค่าสาธารณะได้ 100% เต็มเพราะไม่มีการค้างจ่าย ฉะนั้นแล้วค่าส่วนกลางที่จะกำหนดอัตราจัดเก็บไว้แล้ว เอาเข้าแท้จริงก็ได้ไม่ครบไม่ใช่หรือไม่พอก็มี แต่ถ้าสูงเกินไปก็ไม่ดีก็เพราะว่าจักเป็นต้นทุนของเจ้าของห้องชุด ยิ่งสมมติว่าเราซื้อเพื่อ ให้ความเป็นไทเช่าแล้วค่าใช้จ่ายส่วนนี้มากเกินไปก็จะไปลิดรอนผล ตอบแทนให้ลดลงได้ แนวคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับรายจ่ายส่วนกลางในกรณีที่เป็น

การซื้อคอนโดฯ เพื่อ ยอมเช่านั้น ก็คือจักจ่ายมากไม่ก็จ่ายน้อยก็ขึ้นอยู่กับค่าเช่าที่เก็บได้เป็นหลัก ถ้าเก็บค่าเช่าได้น้อย ค่าใช้สอยในส่วนนี้ก็ต้องน้อยตามลงไปด้วย แต่ถ้าเก็บค่าเช่าได้มากถึงค่าส่วนกลาง  ค่าส่วนกลางจะสูงไปสักหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ในกรณีที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง อันนี้น่าจักขึ้นอยู่กับความพึงพอใจและความศักยในการจ่ายมากกว่า อยู่คอนโดแบบหรูก็ต้องยอมรับว่าต้องจ่ายแพงกว่า ถ้าไม่ใคร่ได้จ่ายแพงก็คงต้องแสวงคอนโดฯ ถูกๆ ค่าสาธารณะต่ำๆ อยู่กันไป

การไม่ชำระค่าสาธารณะมีผลเสียมากมายต่อเจ้าของร่วมทุกคน ทางที่ดีควรจ่ายตามกำหนดไปเถอะครับ กับร่วมกันดัดตนจัดการหรือตรวจสอบบัญชีจะเป็นการดีกว่า การเก็บค่าส่วนกลางของนิติบุคคลเก็บไปก็เพื่อประโยชน์ในการดูแลใช้จ่าย ซ่อมปรับปรุงทรัพย์ส่วนรวมให้ทำได้ใช้งานได้นานๆ ด้วยกันทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยในที่อยู่อาศัยของเราเอง
ขอขอบคุณ : cmc.co.th

วันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

สร้างบรรยากาศสุดพิเศษเหมือนกับดินแดนในภวังค์ ด้วยเฉดสี

ต่อเรือบรรยากาศสุดเด่นแบบดินพื้นที่ในฝัน ด้วยเฉดสี

จักมีเช่นไรที่ทำให้คนเรานั้น มีสุขมากไปกว่าการได้อยู่สนิทกับคนที่คุณรัก ท่ามกลางสถานที่ที่อันแสนจักอบอุ่น ด้วยกันโรแมนติก ไม่ว่าจักเป็นบ้านหรือว่าคอนโดของคุณ กับถ้าแม้สถานที่แห่งนั้นเป็นดินเขตแดนภายในฝันที่คุณหลงรักและตะโกรงใช้ชีวิตแบบนี้ในทุกๆวันด้วยแล้ว ก็คงจะล้นพ้นไปด้วยความรู้สึกอันแสนพิเศษในทุกโมงยาม
ในขณะที่เรากำลังจินตนาการนึกถึงบรรยากาศที่ฟุ้งไปด้วยโลกแห่งความโรแมนติก แต่ช่วงเวลาของการใช้ชีวิตมันกลับไม่เอื้ออำนวยให้เราสมรรถเดินทางไปยังสถานที่แห่งต่างๆ ได้มากมายขนาดนั้น คงจะดีกว่า ถ้าสมมุติเราเชี่ยวชาญเก็บเอาบรรยากาศที่แสนเยี่ยมเหล่านั้นมาแต่งแต้มให้ทุกๆ วันภายในบ้านให้กลายเป็นขอบเขตในฝันเหนือจินตนาการ

เพราะบรรยากาศคือองค์ประกอบหนึ่งของชีวิตที่ศักยช่วยนฤมิต ให้ทุกวันเปี่ยมไปด้วยความสุข ดั่งเช่นบรรยากาศแห่งความโรแมนติกในท่ามมัธยมทุ่งลาเวนเดอร์ ของเมืองต่างจังหวัดของประเทศฝรั่งเศส ที่รุ่มรวยไปด้วยสีสันของธรรมชาติอันมัญชุงดงาม ท่ามกลางโทนสีม่วงแสนหวาน พร้อมด้วยกลิ่นหอมอันแสนเยักย้ายวนที่ถูกแต่งแต้มไว้อย่างละเมียดละไมในทุกอณู จึงพร้อมรังสรรค์ทุกคืนวันให้อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุนทรีย์ที่เกินบรรยาย ด้วยกันคงจักดีไม่น้อยเลยทีเดียว สมมุติสีสันแห่งธรรมชาติจากทุ่งลาเวนเดอร์อันแสนงดงามเหล่านั้น จักสมรรถจะเนรมิตพื้นที่ภายในบ้านให้เต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งห้วงความโรแมนติกในทุกช่วงเวลา เพราะเฉพาะห้องนั่งเล่น ซึ่งนอกจากจักเป็นพื้นที่เพราะด้วยไว้พักผ่อนหย่อนใจเอนกายแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งพื้นที่แห่งความอบอุ่นที่พร้อมให้สมาชิกทุกคนภายในบ้าน สามารถใช้เวลาเพื่อพบปะ สังสรรค์ กับพูดคุยกันได้อย่างมีความสุขในทุกวัน

เหตุด้วยคนรักบ้านที่ต้องการจัดทำบรรยากาศอันแสนโรแมนติก เหมือนกับยกทุ่งลาเวนเดอร์ของฝรั่งเศสมาไว้ชั้นในห้องนั่งเล่นของคุณก็ศักยทำได้ไม่ยาก ปางบุกเบิกต้นด้วยการถ่ายทอดอารมณ์ของสีสันจากธรรมชาติด้วยโทนสีออกม่วงพาสเทลลงบนผนัง พร้อมผสานความโรแมนติกให้มากยิ่งขึ้นด้วยการตกแต่งในสไตล์ฝรั่งเศสที่ให้บรรยากาศอบอุ่นคลาสสิก ตอกย้ำงานเฟอร์นิเจอร์พรรค์ Soft Furnishing อย่างโซฟาที่เป็นผ้าบุที่อ่อนนุ่ม ผ้าม่านสีหวาน ใช่ไหมหมอนอิงลายลูกไม้ พ่างเท่านี้ก็พร้อมแต่งเติมสีสันแห่งความความไพเราะ ให้กับห้องนั่งเล่นราวกับนั่งบรรเทานอนเกลือกอยู่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์อันงดงาม
ไม่ก็สมมติว่าใครที่ถูกใจบรรยากาศแห่งชีวิตชีวา ก็เก่งดื่มด่ำไปด้วยความกระตุ้นร้อนในจังหวะเพลงฟลามิงโก้ของประเทศสเปนได้ง่ายๆ ด้วยโทนเฉดสีแดงสดที่สื่อถึงสีสันแห่งชีวิตชีวา อาจไม่ต้องตกแต่งด้วยข้าวของที่มีเส้นสายไม่ก็เป็นรูปทรงซับซ้อน ปางแต่งเติมความสดใสด้วยแจกัน โคมไฟ หมอนอิง หรือว่าทาสีกำแพงด้วยโทนสีแดงสดพร้อมด้วยโทนสีอ่อนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากทรายเนื้อละเอียด ก็พร้อมจัดทำให้บรรยากาศภายในห้องนั่งเล่นของคุณดูอบอุ่นและผ่อนคลาย เสมือนได้อยู่ท่ามกลางดินแดนแห่งเสียงเพลงฟลามิงโก้ในประเทสสเปนทุกๆ วัน

ถ้าหากมุ่งหมายสัมผัสถึงพลังแห่งความชื่นบานอันแสนรื่นรมย์ราวกับอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าสีเขียวงามสดใสที่ไกลสุดสายตาของประเทศนิวซีแลนด์ ก็เชี่ยวชาญเนรมิตห้องนั่งเล่นให้สดชื่นไปด้วยความเขียวชุ่มได้ไม่ยาก เพียงตกแต่งภายในห้องนั่งเล่นของคุณด้วยการใช้ชุดพาเลทท์โทนสีเขียว ที่เด้งกลับถึงความมีชีวิตชีวาลงบนผนังห้อง แล้วใช้อาร์มแชร์ผ้าบุสีเขียวจัดวางเป็นเฟอร์นิเจอร์หลัก ด้วยกันอาจเละบือกเฟอร์นิเจอร์ลักษณะงานไม้เข้ามาเพิ่มตกแต่งร่วมด้วย ก็ยิ่งช่วยเสริมให้บรรยากาศภายในห้องเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งธรรมชาติที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายของประเทศนิวซีแลนด์ได้มากยิ่งขึ้น

ไม่ว่าช่วงครั้งไหนก็อาจเนรมิตบรรยากาศภายในบ้านให้พิเศษสุดดุจแดนดินในฝัน ได้ด้วย ดูลักซ์ อินสไปร์ ชุดพาเลทท์สี ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์ ‘คัลเลอร์ ออฟ เดอะ เวิร์ล’ (Colours of the World) ซึ่งได้รับแรงผลักดันจากสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 9 ประเทศที่มีเอกลักษณ์กับความโดดเด่นเฉพาะตัว จนเกิดเป็นชุดพาเลทท์สีทั้ง 9 โทนสีที่สวยงาม เพราะในแต่ละโทนสีประกอบไปด้วยสีต่างๆ มากถึง 6 เฉดสี จึงผสมผสานด้วยกันถ่ายทอดออกมาเป็น 54 เฉดสีใหม่ ที่พร้อมสร้างทุกบรรยากาศของบ้านให้เต็มไปด้วยสีสันแห่งความงดงามดุจดินฝ่ายในฝันได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจักเป็นโทนสีส้มอมน้ำตาลอันอบอุ่นจากประเทศออสเตรเลีย สีเหเอิกเกริกงประกายทองที่มีชีวิตชีวาจากประเทศไทย ชุดเฉดสีเอิร์ธโทนอันน่าเกรงขามจากประเทศแอฟริกา พร้อมด้วยชุดสีอื่นๆ อีกมากมาย ที่มีมาให้เเลื่องลือกจัดทำเฉดสีสวยได้ดุจดั่งใจต้องการ โดยสมรรถจำลองการดีไซน์โทนสีสวยได้ด้วยแอปพลิเคชั่น Dulux Visualizer (ดูลักซ์ วิชวลไลเซอร์) เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจากดูลักซ์ ที่พร้อมช่วยให้คนรักบ้านสามารถจำลองการออกแบบสีห้องได้เสมือนจริงๆแบบเรียลไทม์ ซึ่งศักยดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ฟรีทะลวงโทรศัพท์มือถือกับแท็บเล็ตทั้งระบบปฏิบัติการ iOS พร้อมด้วย ระบบ Android

มากไปกว่านั้น ดูลักซ์ อินสไปร์ สีน้ำอะครีลิคเพื่อทาภายใน ยังมาพร้อมคุณสมบัติดึงเกาะผนังได้ดีเยี่ยม ไม่หลุดร่อนง่าย อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยี โครมาไบรท์ (Chroma Brite) ช่วยยืดอายุของสีให้สวยคงทนได้ยาวนานโดยไม่ทำให้ซีดจางไว จึงพร้อมปกป้องสีบนผนังของบ้านให้สวยสดใสได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แถมยังง่ายต่อการทำความสะอาด เพราะว่าทำได้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ พร้อมกับไม่ผสมสารตะกั่วกับปรอท มากไปกว่าคุณสมบัติสุดพิเศษแล้ว สีทาภายใน ดูลักซ์ อินสไปร์ ยังพร้อมเนรมิตบรรยากาศภายในบ้านให้เต็มไปด้วยสีสันเสมือนดินแดนในฝันได้ในทุกช่วงเวลา   ก็เพราะว่าสถานที่มักส่งผลต่ออารมณ์ด้วยกันความรู้สึก ทั้งช่วยสร้างชีวิตชีวา เพิ่มพลังในการใช้ชีวิต เหรอมอบความคลายเครียดที่แสนสบายในทุกๆ ย่างก้าวที่เดินทาง แต่คงจักดีกว่าสมมตเราอาจจะเก็บรายละเอียดอันงดงามจากสถานที่เหล่านั้นพร้อมทั้งศักยหยิบมาผสมเป็นการตกแต่งภายในบ้านด้วยโทนสีสวยที่มีเสน่ห์  ไม่ว่าจักเป็นวันที่แสนเหนื่อยล้าหรือวันที่หิวใช้ชีวิตอย่างเนิบช้า ณ สถานที่ใดสักแห่ง พื้นที่ภายในบ้านก็อาจกลายเป็นดินแดนในฝันได้ตามใจปรารถนา

สนใจโครงการคอนโดใหม่ สมรรถติดตามได้ที่นี้



วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ห้องน้ำต้องตาต้องใจชนะเลิศด้วย 8 ขั้นตอนเก็บของในห้องน้ำ สะสมอย่างไรให้มีสไตล์

8 ขบวนการเก็บของในห้องน้ำความจุเล็ก เพื่อห้องเฉิดฉันชนะเลิศ

ในวันที่รูปแบบห้องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด หรือว่าบ้านของคุณ ได้พลิกกลับแปลงไป ไม่ใช่ปางแค่ประโยชน์จากใช้สอยที่ต้องคำนึงถึง แต่ความอร่ามของมันก็ควรไม่เป็นสองรองใคร งั้นเรามาดูไอเดียการเรียกเก็บของในที่อาบน้ำที่อาจจะช่วยให้ส้วมของคุณ สวย สะอาดพร้อมทั้งอยู่เสมอ
วันนี้เรามีเทคนิคต่างๆ ใหม่ๆ ในการจัดชั้นวางของในห้องน้ำ มาฝากกันครับ นอกจากจะเพิ่มประโยชน์การใช้สอยได้แล้ว ยังช่วยให้ห้องน้ำสวยเป็นหน้าเป็นตาไม่ซ้ำกับใครอีกด้วย มาขึ้นต้นกันเลยดีกว่าครับ

ชั้นวางของใต้อ่างล้างมือ ไม่จำเป็นจักต้องลอบซ่อนหลังบานพับตู้หรือว่าประตูอีกถัดจากนั้น คุณอาจโชว์คลังเก็บของของสุดเก๋ ด้วยตะกร้าเก็บของต่างๆนาๆขนาด เพื่อศักยจัดของใช้หลายชนิด เพื่อความง่ายต่อการฉวยนำมาใช้สอย พร้อมกับยังเพิ่มความเป็นเกณฑ์ภายในห้องน้ำได้อีกด้วย ไม่ใช่แทบแค่ตู้เก็บของแบบธรรมดาในห้องน้ำ การเพิ่มความจุตู้รูปร่างสูงจากอ่างถึงฝ้าเพดาน สามารถเพิ่มขอบเขตเก็บของได้มาก รวมไปถึงสร้างความฉีกแนวใหม่แบบไม่ซ้ำใครได้อีกด้วย

Hidden Storage  ต้นแบบของการเสริมแต่งห้องน้ำนี้ออกจะเหมาะกับสาวๆแนวหวานอยู่ซักหน่อย เพราะว่าการนำเอาผ้าขนหนู เข้ามาใช้งาน ทำให้ห้องน้ำมีความอ่อนหวานน่ารักขึ้นเป็นกองเลย  ทางเร่ำลือกหนึ่งที่จักเป็นได้สร้างพื้นที่ ให้ดูมีความนุ่มนวล พริ้วไหว แต่ยังซุกซ่อนความน่ารักอยู่ เป็นได้ทำได้เพราะติดผ้าจีบระบายให้กับอ่างล้างหน้าตัวโปรด เหรอใช้ผ้าเช็ดตัวโทนสีสดใสมาพาดเอาไว้ที่ราว รวมทั้งเรายังรอบรู้ใช้ประโยชน์เพราะว่าใช้บังสิ่งของที่อยู่ด้านใต้ได้อีกด้วย



Matching Cabinets วิธีนี้จักเน้นการใช้อรรถประโยชน์ใช้สอยให้ส้วมอย่างมาก เป็นการเน้นให้จุของได้บานตะไทๆ ในขณะเดียวกันก็เพียรสร้างความพิลึกกึกกือตาให้กับการตกแต่งในห้องน้ำ มีลักษณะเฉพาะ มีความกลมกลืน รวมทั้งสามารถสร้างความโดดเด่นไปอีกแบบ

Floating Shelf  ถ้าสมมติว่าว่าห้องน้ำของคุณมีเขตแดนค่อนข้างมากพร้อมกับมีกำแพงที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ใดๆ การเพิ่มผลกำไรให้กับผนังที่ว่างเปล่า เพราะว่าการติดชั้นวางของลอยตัวบางเบาไว้ในแถวที่ไม่ค่อยได้เข้าไปใช้งาน เช่น เหนือชักโครก เท่านี้ก็เพิ่ม space พิเศษกับ function ให้กับผนังของห้องน้ำได้

Surrounding Shelf  เนื่องด้วยในทำเลที่ตั้งห้องน้ำที่แคบด้วยกันมีบริเวณน้อย ชั้นวางของหมวดบางเบา วางตามขอบฝาล้อมรอบอ่างล้างมือเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของ ศักยวางขวดสบู่ รวมถึงครีมต่างๆไว้ด้านบน ในขณะที่ด้านล่างยังทำได้ออกแบบไว้แขวนผ้า เพิ่มความพิเศษด้วยการใช้อ่างล้างมือขนาดใหญ่ที่ทำให้รอบรู้ใช้งานได้พร้อมกันหลายคน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจนะคะ
เทคนิคเพราะว่าการตกแต่งชั้นวางของ เพราะการสร้างความน่าตอแยให้กับเคาน์เตอร์เพราะว่านำตะกร้าเก๋ๆมาไว้เพราะใส่ของ อาจจักเป็นขวดโหลสวยๆ กับแจกันดอกไม้ วางคู่กันกับรูปภาพสวยๆก็เพิ่มความเป็นที่ดึงดูดได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

Dual Storage จากอ่างล้างมือคู่ที่ไม่มีความพิเศษใดๆ เราอาจปรับผันให้กลายเป็นมาเป็นชั้นเก็บของคู่ เพราะติดชั้นวางของหินอ่อนเก็บด้านใต้เพื่อให้เข้ากับ top counter เหรออาจใช้วัสดุอื่นๆก็ได้ ทำให้การออกแบบห้องน้ำดูน่าสนใจมากขึ้น

ขอขอบคุณข้อมูลดีจาก : forfur.com
สนใจหาข้อมูล โครงการคอนโดใหม่ ติดตามได้ที่นี้ครับ

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

เคล็ดลับ 13 ทางการจัดห้องนอนสัดส่วนเล็ก

13 วิธีการจัดห้องนอนของคอนโดปริมาตรเล็ก

ถึงทุกวันนี้จักคอนโดมูลค่าถูกมีเขตแดนน้อยก็เถอะ แต่ถ้าต่างว่าจัดถูกกลยุทธ์แล้วห้องแคบก็ดูกว้างได้เช่นกันค่ะ ตกแต่งห้องนอนเล็ก ๆ อย่างไรให้สวยห้องนอนในบ้านพักอาศัยอาศัยแบบ City Life ของคนเมืองยุคนี้มักจะมีพื้นที่น้อย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะมีความสุขอยู่ในห้องนอนเล็กๆของเราไม่ได้นะคะ
ห้องนอนในที่พักพักพิงแบบ City Life ของคนเมืองช่วงเวลานี้มักจักมีพื้นที่น้อย แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะมีความสุขอยู่ในห้องนอนเล็กๆของเราไม่ได้นะคะ วันนี้จึงนำกลยุทธ์ที่น่าสนใจ 13 แนวการตกแต่งห้องนอนเล็กๆ ของคอนโดมิเนียมมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ

1. จัดเตียงให้เด่น : เละบือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เท่าชิ้นเดียว คุณอาจนำเทคนิคนี้ไปใช้ได้ง่ายๆ เพราะว่าการออกแบบลวดลายกราฟฟิกในสไตล์ของคุณเอง เพราะว่านำมาเพ้นท์ใช่ไหมใช้เทคนิคสเตนซิลลงบนไม้ medium density fiberboard (MDF) ที่หาซื้อได้ทั่วไป หรือไม่ก็ถ้าใครงบน้อยหรือไม่หมายกระเหม็ดกระแหม่เวลาก็อาจเเล่าลือกซื้อกระดาษหรือว่าวอลเปเปอร์ลายกราฟฟิกเก๋ๆมาปิดหัวเตียงได้เลย ค่ะ ที่สำคัญที่สุดอย่าลืมเเลื่องกปลอกหมอนสีสันสดใสพร้อมกับลวดลายโดดเด่นมาตกแต่งให้เข้าชุดกันด้วยนะคะ
2. ลวงตาให้ห้องดูสูง : ผ้าคลุมที่ทิ้งตัวลงมาเหนือหัวเตียง ช่วยซ่อนให้ฝ้าเพดานดูสูงขึ้น การเพิ่มเส้นตั้งให้กับผนังห้องจักช่วยทำให้เรารู้สึกว่าฝ้าเพดานของห้องนั้นสูงขึ้นได้ คุณอาจใช้วอลเปเปอร์ลายทางแคบๆ สีโทนเย็น ผ้าม่านที่ให้ริ้วเป็นเส้นแนวตั้ง หรือไม่ก็ลวดลายของผ้าที่หุ้มประดับเครื่องเรือนเป็นลายทางลง นอกจากนี้การเร่ำลือกใช้เครื่องมือที่เบาบางอย่างผ้าฝ้าย คู่สีที่สว่างเย็นคือฟ้า-เหโจษง พร้อมด้วยยังช่วยปลูกสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นโรแมนติกภายในห้องนอนได้อีกด้วย

3. การเลือกระฉ่อนกใช้เตียงนอน : การเระบือกใช้สีที่ทาผนัง และเฟอร์นิเจอร์ภายในห้องก็ทำให้รู้สึกว่าห้องกว้างขึ้นได้ถ้าหากว่าห้องของคุณเป็นห้องที่มีเพดานต่ำ เช่นห้องที่อยู่ใต้หลังคาใช่ไหมใต้บันไดที่มีฝ้าเพดานเฉียงอย่างในภาพ เคล็ดลับที่อาจช่วยให้มุมมองห้องดูกว้างขวางขึ้นได้คือการเเลื่องลือกใช้สีอ่อนทาผนังห้อง พร้อมกับซ่อนขอบห้องหรือมุมห้องไม่ให้มองเห็นได้ชัด เช่นเฟอร์นิเจอร์เข้ามุมขนาดเล็ก การเโจษจันกใช้สีของชุดเครื่องนอนที่มีสีสันสดใสพร้อมทั้งเป็นลายขวางขนาดใหญ่ก็จะทำให้ห้องดูมีชีวิตชีวาด้วยกันลดความคับตีบตันอึดอัดลง นอกจากนี้ การเร่ำลือกใช้หัวเตียงที่มีขนาดเล็ก รูปแบบเรียบง่ายพร้อมทั้งพื้นผิวมันวาวก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคสำคัญที่ทำให้ฝ้าเพดานของห้องดูสูงกว่าความเป็นแน่แท้ได้ ดูเพิ่มเติม Noble Gable Watcharapol
4. จัดเครื่องเรือนไว้ระหว่างกลาง : จัดวางเครื่องเรือนไว้ติดหน้าต่าง อยู่ระหว่างกลางของบานหน้าต่างทั้งหมด เพราะว่าปกติแล้วการจัดวางเครื่องเรือนหรือไม่ก็เตียงนอนไว้ติดหน้าต่างไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักดังที่เครื่องเรือนจะบังแสงกับทัศนียภาพจากภายนอก จึงนิยมวางเครื่องเรือนติดผนังมากกว่า แต่เนื่องด้วยในห้องขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด การวางเตียงติดผนังจะช่วยสร้างจุดใส่ใจของห้องได้เป็นอย่างดี ตามที่อาจใช้ผลดีจากแสงภายนอกเพื่อรังสรรค์บรรยากาศธรรมชาติ พร้อมด้วยการตกแต่งบานหน้าต่างด้วยผ้าม่านก็สมรรถลวงให้เรารู้สึกว่าผ้าม่านนั้นเป็นผ้าฉากของเตียงได้ โดยการเโจษจันกใช้สีของผ้าม่านและเครื่องนอนเป็นคู่สีเดียวกัน และเสือกใช้เนื้อผ้าที่น้อยลง

5. อ่อนโยนพร้อมกับเบาบาง : เเลื่องกใช้สีอ่อนไม่ก็สีเทาสีอมเขียวทั้งบนเตียงพร้อมกับผนังรอบห้อง การเเอิกเกริกกใช้สีอ่อนรอบห้อง รวมถึงเครื่องมือที่ดูโปร่งเช่น ผ้าม่านบางสีขาวรวมถึงเครื่องเรือนโปร่งที่สัดส่วนไม่ทึบตัน จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าห้องนั้นมีอากาศถ่ายเท สูงโปร่งโล่งสบายพร้อมทั้งน่าอยู่

6. ลูกเล่นที่หัวเตียง ห้องนอนสีเขียว : จัดหัวเตียงให้ดึงดูดสายตาจากผนังห้องที่แคบ หากห้องของคุณมีห้องที่แน่นยาว ขาดผนังที่เหมาะสมกับการวางเตียง ไม่รู้จักวางเตียงผนังด้านไหน ลองนำเทคนิคนี้ไปสร้างผนังหัวเตียงของคุณขึ้นเองดูค่ะ ลองใช้วัสดุที่ดูอ่อนนุ่มสร้างเป็นม่านกั้นขึ้นมาคล้ายกับเป็นการใช้หัวเตียงขนาดใหญ่ นอกจากจะดูเก๋แล้วเรายังเชี่ยวชาญใช้ประโยชน์จากผนังนี้ ในการกั้นแบ่งพื้นที่ภายในห้องนอนได้อีกด้วย บริเวณหลังที่บังตาอาจจัดเป็นส่วนแต่งตัวของคุณ เชื่อมต่อพื่นที่ทั้งสองส่วนด้วยเก้าอี้บุเบาะสบายน่านั่ง
7. เส้นสายของเครื่องเรือน :  เร่ำลือกใช้เครื่องเรือนที่มีผิวมันพร้อมด้วยไม่ปกปิดสายตามากนัก อาจทำได้เพราะว่าการนำสายตาด้วยเตียงที่มีโครงประดับ เส้นสายของรูปแบบโลหะจักช่วยทำให้ห้องดูเพดานสูงและดูเบาขึ้นค่ะ

8. เส้นแนวตั้งโดดเด่น : ตกแต่งภายในห้องนอนเพราะใช้ลวดลายทางแนวตั้งที่มีสัดส่วนขนาดใหญ่เพื่อนำสายตาจากฉากขึ้นไปสู่ฝ้าเพดาน คุณอาจเร่ำลือกใช้วอลเปเปอร์ที่มีลายทางบริเวณตั้งขนาดใหญ่ และม่านหนักที่สร้างลอนขนาดใหญ่เป็นจุดเด่นของห้อง เป็นเทคนิคพื้นฐานที่นิยมใช้กันเพราะทั่วไปในการตกแต่งพื้นที่ปริมาตรเล็กค่ะ  แม้ว่าวางเตียงสองชั้นจักช่วยกระเหม็ดกระแหม่พื้นที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

9. เน้นหมอนอิง : ส่งเสริมความน่าสนใจของสถาบัตยกรรมให้เป็นหน้าเป็นตา ในห้องนอนเรียบๆในจุดที่มีชั้นเชิงมุมของสถาปัตยกรรม เช่นมุมของส่วนยื่นอาคารหรือว่าหลังคา คุณอาจส่งเสริมจุดนั้นให้โดดเด่นขึ้นได้ เพราะว่าการตกแต่งห้องด้วยโทนสีเรียบๆ แต่สร้างจุดสนใจเฉพาะหัวเตียงให้มีสีสันสดใส โดยให้สีของหมอนอิงเป็นตัวกระตุ้น

10. แทรกระหว่างช่องว่าง : ใช้เฟอร์นิเจอร์พับได้ในการแต่งห้องนอนขนาดเล็ก ในภาพเป็นแบบอย่างการประกอบกันอย่างน่าสนใจของเครื่องประดับบ้านแบบต่างๆที่ช่วยประหยัดพื้นที่ ตั้งนอนที่สามารถพับเก็บเป็นโซฟานุ่มๆ หรือว่าตู้ที่ทำเป็นดึงชั้นออกมาเป็นโต๊ะข้างโซฟาได้ค่ะ ใช้คู่สีที่สว่าง นุ่มนวลกับเป็นธรรมชาติล้วนๆบางจุด เพื่อจักได้ไม่ดูอึดอัดจนเกินไปค่ะ

11. ระนาบผนังที่สวยงาม : ตกแต่งผนังด้วยวัสดุต่างๆ ลองใช้วัสดุสวยๆ เช่น ลูกปัด ในการตกแต่งผนัง เรียงลูกปัดในแนวตั้ง สร้างให้เกิดผิวสัมผัสที่น่าสนใจและสร้างบรรยากาศบ้านอันอบอุ่น ประดับด้วยโคมไฟคลาสสิกก้านสูง ก็ช่วยนำสายตาให้ห้องดูสูงเช่นกัน หรือว่าติดภาพผนังให้ดูมีเรื่องราว เช่นภาพสวนแนวตั้งนี้ ก็สร้างบรรยากาสดีได้เช่นกันนะคะ ช่วยให้การแต่งห้องนอนดูสวยขึ้น

12. ผนังลึก : สร้างมิติความลึกให้กับผนัง ริเริ่มจากทาสีผนังด้านหัวเตียงเพราะเละบือกใช้สีเข้ม เพื่อให้รู้สึกถึงความลึก ขนาบด้วยผนังพร้อมทั้งฝ้าเพดานสีขาวเพื่อเสริมให้ผนังสีเข้มดูลึกขึ้นเช่นชัดเจน เชื่อมโยงกันด้วยผ้าม่านด้วยกันผ้าบุหัวเตียงที่ใช้คู่สีของผนังทั้งสอง จากนั้นเเลื่องลือกใช้อีกคู่สีหนึ่งที่โดดเด่น แต่ก็รอบรู้เข้ากันได้กับสีผนัง มาเป็นผ้าปลอกหมอนอิงพร้อมทั้งผ้าประดับต่างๆ
13. สะท้อนมุมมอง :ใช้บานกระจกขนาดใหญ่สะท้อนมุมมองของห้องใหญ่กว้างขึ้น ควรเละบือกใช้บานกระจกที่มีความสูงมาพิงกำแพง อย่าลืมดูว่าบานกรอบของกระจกนั้นควรมีสีสันพร้อมกับวัสดุที่เหมาะสมกับเครื่องเรือนอื่นๆด้วยนะคะ กระจกจะช่วยสะท้อนมุมมองของห้องให้กว้างขึ้นอีก พร้อมกับจักดูสมแน่แท้มากขึ้นถ้าหากกระจกได้สะท้อนแสงธรรมชาติจากหน้าต่างหรือโคมไฟภายในห้อง คราวนี้รู้หลักง่ายๆกันแล้วก็มาเปลี่ยนห้องนอนเล็กให้สวยสมใจกันเถอะค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : forfur.com

4 ข้อควรรู้ก่อนตกลงใจที่จะจำหน่ายคอนโด

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อขายคอนโดมิเนียม

ข้อควรรู้ 4 ข้อที่คุณไม่ควรจะหลวมตัวเชื่อ ก่อนจักซื้อ คอนโด เพื่อมาลงทุน

class= โดยในปัจจุบันเพราะด้วย คอนโดมิเนียม นั้นก็แทบจะเป็นอีกหนึ่งของซื้อของขายที่มีการเปิดตัว ทั้งยังเปิดครอบครอง ด้วยกันเปิดพรีเซลล์กันเกือบทุกอาทิตย์ การชิงชัยกันในเรื่องของทำเล สนนราคา การออกแบบ เรียกว่าอาจจักมากกว่าจำนวนผู้ที่ต้องการซื้อคอนโดใหม่เสียด้วยซ้ำ แต่ว่าคุณรู้หรือไม่ก็ไม่ว่าในทางการโปรโมทต่างๆ นั้นส่วนหนึ่งอาจจักเป็นหลุมพลางกับทำให้คุณหลงตกลงใจจอง และซื้อคอนโดมิเนียมแผนการนั้นเพราะไม่ได้ยั้งคิด ดังนั้นทางเราจึงมีข้อแนะเกี่ยวกับการเเลื่องลือกซื้อคอนโดอย่างไรทำนองคลองธรรมที่คุณจะไม่ตกหลุมของพรรคนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มี 4 ข้อสั้นๆ อ่านไว้ก่อนจะตกลงใจเลือกซื้อคอนโด ข้อที่ 1. จงอย่าเลือนเชื่อการโปรโมทของนักก้าวหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนักวิวรรธน์อสังหาริมทรัพย์ใช้เงินลงทุนในกิจการจำนวนมาก รวมทั้งยังใช้เงินจำนวนมากหมดไปกับการโปรโมท ของซื้อของขายตัวใหม่ของเขา ดังนั้นคุณอย่ามัวเมาเชื่อพางซึ่งเกี่ยวกับแผนการท้องตลาดต่างๆ มันก็ต้องคำนวณถึงความคุ้มคุณประโยชน์ในการซื้อขายในเบื้องหน้า ซึ่งแค่คิดแค่ว่าคุณจะยอมจ่ายเงินมหาศาลเพื่อให้ได้มาซึ่งเพื่อนกับครอบครัวที่ดีเสมอไป ข้อที่ 2. คุณควรแน่ใจว่าคุณจะขายคอนโดนั้นได้อย่างแน่แท้ก่อนที่คุณจะเซ็นรับมอบ คุณไม่ควรตัดสินใจซื้อคอนโดที่โครงการห่างห่างไกลจากการก่อสร้าง เพราะว่าว่ากว่าที่คอนโดของคุณนั้นจักทำจักเสร็จ ในคอนโดของคุณจักถูกกำหนดค่าโดยค่าคอนโดในท้องท้องตลาด ที่มันต่ำกว่ามูลค่าคอนโดที่คุณซื้อมาตั้งแต่แรก ข้อที่ 3. จงซื้อโดยไม่มีแรงจูงใจหรือไม่มีการนัดหมาย โดยก่อนที่คุณนั้นจักตกลงใจซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงเงิน คุณควรมีความรู้ความเข้าใจ พร้อมกับ มีการวางแผนในหลายๆ เรื่องด้วย ข้อที่ 4.จงเล็งเห็นถึงต้นทุน พร้อมกับ รายได้ที่จะได้มา ซึ่งแต่ละคนก็จะได้รับความเสี่ยงในการลงเงินได้แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อคอนโดเพื่อการลงทุน ควรหมุนกลับไปคิดถึงแผนที่คุณวางไว้ ถ้าคุณมีแรงจูงใจในการซื้อมันก็ถือว่าคุณวางเงินลงทุนไว้ในที่ๆ เหมาะสม นี่เห็นไหมคะว่ากับดักเหล่านี้อาจทำให้คุณทำชั่วพลั้งได้ง่ายๆ ดังนั้นก่อนตัดสินใจจ่ายเงินจำนวนมากก็ต้องคิดหนักๆ นะคะ

เคล็ดควรรู้! ขายคอนโดให้ได้สนนราคางามตามฉบับผู้ชำนาญ

border=0
(ขอบคุณภาพประกอบจาก people.hgtv.com )

คอนโดไม่ได้กลายเป็นแค่ที่อยู่อาศัยเหมือนอย่างเดียวเท่านั้น แต่ว่าในพื้นที่แห่งนี้ มันก็ยังกลายเป็นหนึ่งในทางธุรกิจการค้าการซื้อขายที่ช่วยสร้างกำไรให้กับเหล่านักลงทุนที่มีความรู้ ในส่วนคนที่เป็นมือใหม่ด้วยกันหันมาจับทางการซื้อ - ขายคอนโดเป็นอาชีพหลัก นั้นก็อาจจะยังกลัวๆ กล้าๆ กับการลงทุน ซึ่งก็อาจจักไม่
border=0
(ขอขอบคุณภาพประกอบจาก decoholic.org )

มั่นใจกับผลการทดแทนว่าจะขาดทุนหรือไม่ก็ได้กำไร เพื่อบางกลุ่มที่ยังเป็นมือใหม่ พร้อมกับซื้อแล้วใจร้อนไม่มีการหาข้อมูลวิธีการเพิ่มมูลค่าให้ดีก่อน ก็ต้องกลายเป็นว่าต้องใช้เวลาในการขายนานขึ้น เพิ่มด้วยบางคนรีบลดค่ากระหน่ำก็เพราะว่าคิดว่ามันคงจะขายไม่ออก จึงทำให้กลายเป็นความล้มเหลวในธุรกิจนี้กันมาแล้วหลายต่อหลายคน ด้วยกันสมมตใครกำลังประสบปัญหานี้ เหรอเพิ่งริจักตั้งต้นต้นเป็นผู้ขายคอนโดให้ดูเหมือนมืออาชีพ ควรเน้นการทำกำไรแบบงามๆ แล้วล่ะก็ ถ้าอย่างนั้นก็ลองมาดูข้อเสนอแนะดีๆ จากเราถัดไปนี้เพื่อนำไปใช้ในการต่อยอดกันดีกว่าค่ะ

border=0
( ภาพประกอบจาก decoholic.org )
1. มาเริ่มต้นด้วยการดูงบประมาณของตัวเองก่อน เนื่องด้วยสิ่งสำคัญที่สุด ในการลงทุนคือตีค่าความเป็นได้ทางด้าน งบเกือบๆของตัวเองให้ดีก่อน เพื่อที่จักได้เโจษกระดับของคอนโดว่าต้องการให้มันออกมาอยู่ในรูปแบบไหน ก็เพราะว่าถ้าหากงบน้อยจำเป็นที่จะต้องเลือเลื่องกซื้อคอนโดราคาถูกลงมา เพื่อให้เหเลื่องเงินทุนอีกส่วนหนึ่งเพื่อใช้ตกแต่งภายในด้วย
border=0
(ภาพประกอบจาก palletfurniturediy.com)

2.มองหาหรือว่าเลือกระฉ่อนกคอนโดให้ได้ค่าดี ซึ่งคราวคุณมีเงินทุนตามสมควรก็มาถึงขั้นตอนการเเลื่องลือกซื้อคอนโดที่เหมาะสมให้กับตัวเอง เพราะเน้นว่าคอนโดนั้นจักต้องเพิ่มมูลค่าให้ได้มากขึ้นตราบใดทำการขาย เหตุด้วยมือใหม่นั้นควรจักทราบว่าในคอนโดจักมีให้เร่ำลือกด้วยกัน 2 ตระกูล ก็คือ คอนโดแบบที่สร้างเสร็จแล้ว จักเห็นตัวห้อง พร้อมด้วยสภาพของคอนโดเพราะรวมอย่างชัดเจน กับแบบที่กำลังอยู่ในช่วงของการก่อสร้าง โดยแบบแรกจักให้ข้อดีตรงที่เชี่ยวชาญมั่นใจได้ว่าห้องที่เราเละบือกซื้อคุ้มค่ากับราคาแบบไม่ต้องมานั่งจินตนาการว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหนด้วยกันน่าพึงพอใจหรือไม่ไม่ แต่ในแบบที่สองนั้นจะมีความเสี่ยงต่างว่าโครงการนั้นไม่มีมาตรฐานในการสร้าง แต่ว่า ข้อดีของมัน ก็คือ การช่วยเกร็งกำไรของห้องให้มีมูลค่าสูงขึ้น จนกว่าคอนโดจะสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งมักจะใช้เวลากันเกือบๆ 1 - 2 ปี เพราะประมาณ
border=0
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก apartmenttherapy.com/

ซึ่งในส่วนถัดมาคือการเเลื่องกทำเลที่ตั้ง เป็นเรื่องปัจจัยที่จะช่วยให้เหล่าผู้ซื้อตัดสินใจเลือกได้ง่ายขึ้น ส่วนนี้ถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการลงทุนในธุรกิจเลยก็ว่าได้ ทีนี้ที่คุณต้องทำการศึกษาปัจจัยความพึงพอใจของผู้เช่าซื้อทั้งหลาย ทำเลที่ดีดูไม่ยาก ให้เน้นความสะดวกสบายในการเดินทาง อยู่ใจกลางแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งควรมีธรรมชาติร่มรื่น ทั้งเงียบสงบ กับ ก็อาจจะเชื่อมต่อกับการทางรถไฟฟ้า ใช่ไหมรถไฟใต้ดิน และ คมนาคมสาธารณะได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย พร้อมด้วยสิ่งเหล่านี้ มันก็จักช่วยให้การสร้างกำไรในธุรกิจซื้อขายคอนโดได้มากกว่าขาดทุน แต่ว่าก็อย่าลืมว่านอกจากที่กล่าวไปข้างต้น ว่ายังมีสิ่งที่เราต้องใส่ใจอีกหลายส่วน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้มากกว่าเดิมด้วยการตกแต่งภายใน ส่วนการเโจษกหาเจ้าของโครงการที่น่าเชื่อถือเอาไว้ ก็เป็นตัวช่วยสร้างรากฐานของเราให้มั่นคงได้อีกทางหนึ่งด้วย

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

The Diplomat Sathorn คอนโดเท่ จุดรวมเมือง ที่ธุรกิจการค้าณสาทร

The Diplomat Sathorn  คอนโดสง่า กึ่งกลางเมือง แหล่งกิจธุระที่สาทร 


คอนโดมิเนียมที่ถึงที่เหมาะกับคนดำรงชีวิตในเมือง ทำงานหรือไม่มีลูกๆเรียนในแถวย่านสีลม สาทร ไปๆ มาๆด้วยรถไฟฟ้าเป็นหลัก เหรอเฟุ้งเฟื่องกทัศนาจรด้วยรถในเวลาไม่เร่งรีบ ขึ้นทางด่วนออกเมือง ใช่ไหมใช้สาทรเข้ามาเมืองก็สะดวก เข้าใกล้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ชอบความหรูหราพร้อมด้วยส่วนกลางที่จัดเต็ม โครงการคอนโดใหม่ใจกลางเมืองที่สาทรกับ The Diplomat Sathorn เป็นโครงการที่ 3 ของ KPN ที่เคยพัฒนาโครงการอย่าง The Capital ราชปรารภ-วิภาวดี กับ The Capital เอกมัย-ทองหล่อ เพราะในเวลานี้ก็ขยับมาจับ Prime Location ที่สาทร ติดรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ เพราะมี Sales Gallery ยกขึ้นอยู่ทีเดียวกับที่ตั้งแผนการ ประชิดกับโรงแรม Mode สาทร เราลองมาดูข้อปลีกย่อยเลย

เรื่องประกอบของโครงการ
ชื่อเล่นโครงการ : เดอะ ดิโพลแมท สาทร / THE DIPLOMAT SATHORN
เจ้าของโครงการ : เค.พี.เอ็น. กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น / KPN Group Co., Ltd. (ขายเพราะ CBRE)
คอนโดมิเนียม : แบบ SUPER LUXURY CLASS High Rise 1 อาคาร 38 ชั้น 192 ยูนิต
ที่จอดรถ : 100% - 192 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน
ไร่ทั้งหมดเพราะว่าประมาณ : 1-2-12ไร่
ลักษณะห้องและขนาดห้อง :
             1 Bedroom  /  40 - 52 ตารางเมตร
             2 Bedrooms  /  59 - 76.5 ตารางเมตร
             3 Bedrooms + Penthouse  /  85.5 - 205 ตารางเมตร
ที่จอดรถทั้งหมด : 192 คัน คิดเป็น 100%
บริเวณ : สาทร, สุรศักดิ์, เจริญราษฎร์
ตำแหน่งที่ : ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ
ขนส่งสาธารณะ :  รถไฟฟ้า BTS สุรศักดิ์, ทางด่วนสาทร ทางด่วนถนนจันทน์
รถเพราะสารที่ทะลุ : n/a
กะเกณฑ์การ :  n/a
ปีที่นฤมิตเป็นการ : พ.ศ. 2559
สนนราคาเริ่มต้นหมาย : 9 ล้านบาท
มูลค่าถัวเฉลี่ยต่อตารางเมตรประมาณการ 200,000 บาท
สิ่งอำนวยความสะดวก
             - สระว่ายน้ำ ขนาด 28 x 7 ม. พร้อมสระเด็ก
             - ฟิตเนส
             - รปภ. ด้วยกัน CCTV
             - ประตู Key Card
             - สวนหย่อม
สถานที่สำคัญใกล้เคียง :
ห้างสรรพสินค้า
             1. เซ็นทรัล สีลม คอมเพล็กซ์
             2. ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก
             3. บ้านสีลม
             4. ท็อปส์ มาร์เก็ตเพลส (สาขาสีลม)
             5. วิลล่า มาร์เก็ต (สาขาสีลม ซอยพิพัฒน์)
             6. ฟู้ดแลนด์ (สาขาพัฒน์พงศ์)
             7. ท็อปส์ ซุปเปอร์ (สาขาเซนต์หลุยส์/บางรัก)
โรงเรียน
             1. โรงเรียนเซนต์หลุยส์
             2. โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน
             3. โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก
             4. โรงเรียนอัสสัมชัญ คอนแวนต์
             5. โรงเรียนอัสสัมชัญ พาณิชยการ
             6. โรงเรียนอนุบาลเปล่าประสิทธิ์
โรงพยาบาล
             1. โรงพยาบาลเซนต์หลุยส์
             2. โรงพยาบาลเลิดสิน
             3. โรงพยาบาลมเหสักข์
             4. โรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
             5. โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
โรงแรม
             1. โรงแรมแชงกรีล่า
             2. โรงแรมโอเรียลเต็ล
             3. โรงแรมเลอบัว
             4. โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ แบงคอก สีลม
             5. โรงแรม อีสติน แกรนด์
             6. โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟีนิกซ์ สีลม
             7. โรงแรม โหมด สาทร

เค้าโครงจากทางโครงการ



สำหรับถนนสาทรช่วงสถานีบีทีเอสสุรศักดิ์นั้นเป็นช่วงที่อยู่ติดกันกับสะพานตากสินไม่ก็บางท่านจะชินกับคำว่าสะพานสาทร ที่จักข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งธนบุรี เป็นสะพานที่รถติดกระหน่ำสุดๆในช่วงเช้าเย็น เพราะว่าเฉพาะน้องๆเปิดเทอมกัน สาหัสมาก ยังดีที่มีสถานีรถไฟฟ้าคอยให้บริการเพื่อบรรเทาการจราจรอยู่ สถานีที่เข้าถึงตัวสถานีสุรศักดิ์อยู่คือสถานีสะพานตากสินพร้อมกับสถานีช่องนนทรี นับตั้งแต่ทางลงสะพานตากสินไปสู่พิถีสาทรเหนือมา จักเห็นอาคารสูงรายล้อมสองฝั่งขนานถนนสาทรไปเรื่อยๆ บริเวณนี้นับว่าเป็นจุดศูนย์กลางเมืองเหมือนข้ามสะพานตากสินมา ความหนาแน่นของโรงเรียนจักค่อนข้างท่วมท้น พอถัดเข้าช่วงใกล้ถนนพระราม 4 จักเน้นอาคารสำนักงานซักส่วนใหญ่

คงจักต้องเตือนว่า การคมนาคมบริเวณ BTS สุรศักดิ์นี้ เป็นหนึ่งในวงที่ควรจะเลี่ยงเอามากๆของกรุงเทพมหานคร เพราะเป็นจุดที่ “เข้าง่ายออกยาก” มีสะพานสาทร ที่รถติดทุกวัน ท้ายแถวยาวเป็นกิโล รถจากฝั่งพระนครจะเคลื่อนที่มาจากสีลม ข้ามมาทางแนวสุรศักดิ์พร้อมทั้งซอยย่อยอื่นๆ จากพระราม 4 จากนราธิวาสฯ จากถนนจันทน์ จากรัชดา รวมไปถึงจากทางด่วนลงสีลม กรูกันเข้ามาเพื่อที่จักข้ามสะพานสาทร ในขณะที่รถจากฝั่งธนก็เทเข้ามาฝั่งนี้ไม่น้อยเหมือนกัน ทำให้การจราจรตรงนี้ติดหนักอย่างเลี่ยงไม่ได้

หนำซ้ำ ถนนสาทรช่วงนี้ ที่กลับรถมีเท่าตรงหน้าโรงพยาบาลบางรัก กลับรถที่สี่แยกสาทร-นราธิวาสไม่ได้ (นี่ยังไม่ได้พูดถึงรถจากสี่แยกอีกนี้นะ) กลับรถที่แยกสาทร-สุรศักดิ์ก็ไม่ได้ ถนนหลายจุดถูกปรับเป็นวันเวย์ในเวลาโรงเรียนเข้า-เลิก ทั้งโรงเรียนอัสสัมชัญฝั่งสาทรใต้พร้อมกับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฝั่งสาทรเหนือ ถ้าจะบอกกล่าวว่าจุดที่ทำรถติดแผ่ขยายไปจนถึงถนนเส้นอื่นๆบริเวณนี้ที่กล่าวมา คือสี่แยกนี้ ก็คงจักไม่ผิด

คำแนะนำการเดินรถในทำเลนี้ต้องดูให้ดีนะ ว่าเดินรถทางเดียวไหม บางจุดอาจจักกลับรถได้ช่วงเวลาไม่เร่งด่วน การจราจรบนเส้นถนนสาทรติดๆ ขัดๆขึ้นอันดับของกรุงเทพอยู่แล้ว ยังดีที่มีทางขึ้นลงทางด่วนศรีรัชใกล้ๆทำให้ร่นระยะเวลาไปได้มากหลาย

ด้วยว่าห้องของโครงการจะแบ่งออกเป็น 4 Type

1 Bedroom ขนาด 40 - 52 ตร.ม.

2 Bedrooms ขนาด 59 - 76.5 ตร.ม.

3 Bedrooms ขนาด 85.5 - 99.5 ตร.ม. พร้อมกับ Penthouse ขนาด 133 - 205 ตร.ม.(เพดานสูง 4 ม. พร้อมสระว่ายน้ำเป็นแบบ Semi-indoor จำนวน 3 ยูนิต)

ค่าด้วยกันเงื่อนไขการขาย @ 25/10/2013
  • 1 Bedroom ชั้น 11 Type A3 ห้อง 1106 เนื้อที่ 45.00 ตารางเมตร ค่า 9,951,752 ล้านบาท หรือไม่ 221,150 บาทต่อตารางเมตร
  • 1 Bedroom ชั้น 17 Type A2 ห้อง 1702 เนื้อที่ 42.50 ตารางเมตร ค่า 9,477,381 ล้านบาท ใช่ไหม 222,997 บาทต่อตารางเมตร
  • 2 Bedroom ชั้น 13 Type B5 ห้อง 1306 เนื้อที่ 76.50 ตารางเมตร สนนราคา 17,084,143 ล้านบาท หรือว่า 223,322 บาทต่อตารางเมตร
  • 3 Bedroom ชั้น 26 Type C1 ห้อง 2608 เนื้อที่ 85.50 ตารางเมตร มูลค่า 19,825,128 ล้านบาท หรือว่า 231,872 บาทต่อตารางเมตร
  • Fully Furnished
  • เพดานสูง 3-4 เมตร
  • จอง 1 ห้องนอน 50,000 บาท 2 ห้องนอน 100,000 บาท
  • ทำปฏิญาณ 14 วันหลังจอง
  • ค่ากองทุน 800 บาทต่อตารางเมตร
  • ค่าส่วนกลาง 80 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
The Diplomat Sathorn นั้นเป็นคอนโดมิเนียมภูมิฐานจุดศูนย์กลางเมือง ที่ติดรถไฟฟ้า เพราะไม่ได้ขายเท่าแค่คำว่าใกล้ แต่เป็นคำว่า ติด เลยทีเดียวซึ่งไม่ได้แค่คำโฆษณาเท่านั้นเพราะว่าเนื่องแต่มีบันไดเลื่อนขึ้นพาดอยู่บริเวณด้านหน้าของโครงการ และยังอยู่ในตำแหน่งที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจด้วยกันโรงเรียนเอกชนทั้งหลาย ทางเข้าออกโครงการอยู่ติดถนนสาทร พร้อมด้วยสถานีสุรศักดิ์ในอนาคตนั้นจักกลายเป็นสถานีสุดท้ายก่อนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังฝั่งธนฯเหตุเพราะการยกเลิกสถานีสะพานตากสินเพื่อการระบายผู้โดยสารที่เร็วขึ้นจากการเปิดส่วนต่อขยาย การเดินทางไปขึ้นท่าเรือนั้นจักมี Sky Walk ที่มีทางเลื่อนอัตโนมัติเข้ามารองรับแทน ทำให้ไม่จำเป็นต้องนั่งรถไฟฟ้าไปอีกป้ายเพื่อขึ้นเรือแล้ว

ระดับชุมชนนั้น บริเวณใกล้สถานีไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวก หรือสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่อาศัยเท่าไรนัก มีเซเว่นที่เพิ่งจะเปิดได้ไม่นานที่ ชาร์ตเตอร์ สแควร์ ส่วนใหญ่จะเป็นอาคารสำนักงาน โรงเรียน หรืออาคารพาณิชย์ต่างๆมากกว่า ส่วนที่อยู่อาศัยจักอยู่ลึกเข้าไปในซอย เซนต์หลุยส์ทางฝั่งสาทรใต้ พร้อมทั้งสีลมทางฝั่งสาทรเหนือ ซึ่งสภาพแวดล้อมจะผิดแผกแตกต่างจากถนนใหญ่มาก น่าอยู่กว่ามาก สิ่งอุปโภคบริโภคหาได้ง่ายกว่า แต่มีความเป็น Local มาก คนที่ไม่ชินอาจจักไม่ชอบ ใกล้สถานีมลพิษค่อนข้างเพียบเนื่องแต่อยู่ใกล้สี่แยก กับสาทรเป็นถนนเส้นใหญ่ 8 เลน ทำให้สภาพชุมชนโดยรอบของสถานีนี้ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไร

การเดินทางด้วยรถ สะดวกมาก เพราะติดถนนใหญ่ แต่เป็นเส้นที่รถติดกันสาหัสเลยทีเดียว ช่วงเวลาเช้าเย็นหรือว่าโรงเรียนเข้าและโรงเรียนเลิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรุงเทพคริสเตียนข้างๆตึกนี่ละ โชคดีหน่อยฝั่งสาทรเหนือตอนค่ำๆรถไม่ค่อยติดเท่าไหร่ แต่เวลาเร่งด่วนช่วงเช้านี่ลืมไปได้เลย แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติก็ชิวๆนะ รถสะสมไม่มาก ระบายได้เรื่อยๆพร้อมกับยังไปขึ้นทางด่วนโดยเข้าถนนประมวญไปทะลุศรีเวียงออกสุรศักดิ์เพื่อขึ้นศรีรัชได้ไม่ยาก นอกจากช่วงเปิดเทอมที่จักอภิมหาติดแล้ว อีกช่วงคือช่วงแห่พระแม่อุมาเทวีนี่ทะลวงหน้าโครงการแน่ๆ อันนี้ปิดถนนเลย ซึ่งจักมีเทศกาลนี้ทุกๆปีช่วงปลายๆปี

การเดินทางไม่ใช้รถ สะดวกสุดๆ บีทีเอสทางขึ้นที่ผ่านหน้าโครงการ อาจจักวุ่นวาย ไม่ได้เงียบสงบตามภาพ Render ที่ออกมาก็เพราะว่าตามปกติ จักมีข้าวของขายริมถนน เด็กๆจะซื้อกันเพียบเลยนะ แต่ก็สะดวกมากๆ นอกจากนี้ยังมีรถแดง 7 บาทที่เดินทางไปบางรัก ท่าเรือได้อีกด้วย

วัสดุโครงการให้มาแบบจัดเต็ม รวมทั้ง Fully Furnished ของที่ให้มาก็เป็นของดี หิ้วกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลย ตัววัสดุพื้นก็เป็น Engineering Wood ห้องน้ำ ให้อุปกรณ์ ก๊อกน้ำ, ฝักบัว ยี่ห้อ Kohler พร้อมกับสุขภัณฑ์ ยี่ห้อ Villeroy & Boch ส่วนเตรียมอาหาร ให้ชุดเคาน์เตอร์ครัว Top หิน Quartz Silestone พร้อมเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว ด้วยกันไมโครเวฟ ยี่ห้อ Kuppersbusch พร้อมชุดอ่างล้างจาน Teka , ที่ดูดควัน Teka พร้อมด้วยตู้เย็นแบบ Built-in ฝังในชุดเคาน์เตอร์ครัวยี่ห้อ Teka , เครื่องปรับอากาศ แบบ Spilt -Type ของ Daikin แบบนี้สวยงามแต่จะลำบากในการดูแล

ในเรื่องของแบบแผนผังอาคารนั้นมีการนำเอากลิ่นอายของ Existing เดิมที่เป็นบ้านของเจ้าพระยามาถอดรายละเอียดไว้ในอาคารส่วน Podium พร้อมทั้งด้าน  Tower จะเป็นลักษณะ Modern ซึ่งทำให้ เวลาเดินมาระดับสายตาจักเห็นอาคารแนวคลาสิค เรียบหรู แต่เมื่อมองจากรถไฟฟ้า ไม่ใช่หรือมุมสูงนั้นจะเห็นเป็นอาคารหน้าตา Modern ในเรื่องของวิว นั้นด้านที่ติดกันกับ Mode ไม่มีเปิดวิวออกสู่ด้านนี้เลย จักมีด้านหลังที่มองไปทางทิศเหนือ ต้องหลบอาคาร  BCC ของกรุงเทพคริสเตียนซักหน่อย มาที่ห้องพักกันดีกว่า ฝ้าเพดานของโครงการจัดมาให้สูงเลยคือ 2.7-3 เมตรด้วยกัน 4 เมตรใน Penthouse แต่สำหรับห้องตัวอย่าง 1 ห้องนอนนั้นไม่มีระเบียงซึ่งบางท่านที่อยู่คอนโดไม่ชอบ แต่บางท่านชอบ ต้องขยับไปดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น ที่เห็นชัดเจนของแบบห้องที่นี่คือเรื่องพื้นที่เก็บของที่มีแทรกอยู่ให้ก่ายกองดีนะไหนๆก็จัด Fully Furnished มาให้ ทำชั้นเก็บของมาให้ด้วยเลย นับว่าเป็นดีนะ ก็เพราะว่าคอนโดอยู่ๆไปของก็บานตะเกียงขึ้นแต่ที่เท่าเดิม แต่เหตุด้วยพื้นของบางส่วนยังใช้เป็นวัสดุเดียวกันเช่นครัวพร้อมกับซักล้าง เป็น Engineer Wood อยู่ซึ่งจะดูแลลำบากเรื่องความชื้น

สาธารณูปโภคของโครงการจัดมาให้แบบเพียบดีนะ นอกจากเกณฑ์ของคอนโดมิเนียมกาลสมัยนี้แล้วยังมีส่วนอื่นๆที่เพิ่มความพิเศษกับโครงการ อย่าง Kid’Zone , Diplomat Club , Cigar Lounge , Oval ในส่วน Lobby เป็นต้น ด้วยกันสระว่ายน้ำ Lap Pool ที่เห็น City View Fitness จะมีจุดเด่นที่เรื่องวิวเพราะอยู่ชั้นบนสุดของอาคารทำให้เห็นวิวได้กว้าง , ในส่วนของที่จอดรถ มี 100% เพื่อคอนโดมิเนียมระดับค่า สองแสนอัพนี่ควรจักมีให้ตั้งนานแล้ว

Judgement
โครงการในเกรดระดับค่า SUPER LUXURY CLASS ขึ้นไป ทางเราจะยกเว้นเว้นการให้แนนเรื่องความคุ้มค่านะ เช่นเดียวกันกับโครงการอื่นๆในระดับราคาเดียวกัน
ทำเล - ใจกลางเมือง ศูนย์กลางธุรกิจ กับโรงเรียนเอกชน แต่การเดินหาของทานแบบตลาดจักไม่มีระยะใกกล้ต้องไป บางรัก เจริญกรุง เป็นต้น
เดินทางด้วยรถ - สะดวกแต่ถนนสาทรช่วงนี้รถติดมหาศาลในช่วงเวลาเร่งด่วน ดีที่มีซอยทางลัดอยู่ข้างๆ
ไม่ใช้รถ - มีรถไฟฟ้าด้านหน้าของโครงการเลย
วัสดุ - สวย ถือว่าให้มาเหมาะสมกับราคา พร้อมด้วยยัง Fully Furnished
ข้าง - ทำห้องออกมาได้ดี ชอบห้องน้ำห้องใหญ่
สาธารณูปโภค - จัดมาให้ท่วมท้น และหรูหรามีจุดเด่นหลายที่
SUPER LUXURY CLASS
NOT JUDGED

รูปภาพเพิ่มเติม

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : thinkofliving.com